"ASICS Gel Tiger Paw
2003"




Tiger Paw
ตัวแข่งรุ่นถูกสุดของ
ASICS
แต่ก็ได้รับความนิยมสูงสุดของ
ASICS เช่นกัน ออกมาถึงตอนนี้ไม่รู้เป็นรุ่นที่เท่าไร
แล้ว
เพราะว่าออกมาบ่อยเหลือเกิน
เฉพาะที่ผมใช้มา ก็
สามสี่ตัวไปแล้ว
สองตัวนี้
เป็นรุ่นใหม่เปลี่ยนแนวการออกแบบ
และหน้าตา
ออกไปจากรุ่นเดิมค่อนข้างมากโดยเฉพาะส่วนของ
การร้อยเชือกรองเท้าเปลี่ยนใหม่หมดดูแปลกตาไปจนจำไม่ค่อยได้
แถมโลโก้ด้านท้ายรองเท้า
ก็เปลี่ยนไปใช้ตัวอักษร
ญี่ปุ่นแทน Logo Asics
ปกติ
ส่วนคุณสมบัติอื่นๆ
ก็ยังคงเหมือนกับตัวเดิม
ในด้านน้ำหนักที่เบา
Flexibity สูงสุด
วิ่งแล้วไม่ค่อยเมื่อยเท้าสำหรับคนเท้าไม่แข็งแรงแบบผม
แต่ความบางอาจจะทำให้คนน้ำหนักตัวมากอาจจะรู้สึกว่ามันรับแรงกระแทกได้น้อยไป
แต่ถ้าน้ำหนักตัวไม่มากไปจริงๆไม่มีปัญหาแน่นอน
สำหรับผม
น้ำหนักตัว 64 กก.
รุ่นนี้ใช้ลงแข่งได้
ตั้งแต่ 10 กม. ยัน 42.2
กมในมาราธอนได้เลย
น้ำหนักรองเท้าเบอร์
US 9 นน. 230-240
กรัมต่อข้าง
ราคาที่ได้มาจากสิงค์โปร์
จาก ราคาตั้ง 135 Sin $
ลดได้เต็มที่ที่หาได้
95 Sin $ หรือประมาณ 2200กว่าบาท
B


สำหรับสีแดงตัวนี้เป็นตัวเก่า
ที่ออกมาก่อนสองตัวข้างบน
รุ่นนึง
แต่ว่าชอบสีของมัน
กับความที่ชอบ Tiger Paw
เป็นพิเศษ
เลยหยิบติดมือมาจากสิงค์โปร์ด้วยในราคา
90 Sin $ น้ำหนักตัว หนักกว่าเล็กน้อยคือ
250 กรัมต่อข้าง
(Update 25 / july /2003)
คลิคกลับไปJfk
Running Corner