-=Jfk=- Trekking Corner

เดินลุยป่าไปดู "ทีลอซู" หน้าฝน

น้ำตกทีลอซู ที่อ.อุ้มผางจังหวัดตาก นับเป็นหนึ่งน้ำตกที่ ได้รับการยอมรับว่าสวยมากๆ ติดอันดับต้นๆของไทย
สมัยก่อนการเดินทางไป เที่ยวน้ำตก ค่อนข้างลำบากเนื่องจากเส้นทางที่ขึ้นเขาไปยังน้ำตก ไม่ค่อยดี ต้องเดินเท้าเข้าไป
แต่ระยะหลังมีการทำทางให้รถเข้าไปถึง และปรับปรุงลานกางเต็นต์และห้องน้ำ และจุดบริการนักท่องเที่ยว ดีขึ้น ทำให้คนไปเที่ยวชมกันมากขึ้น
แต่ว่าส่วนใหญ่ จะไปเฉพาะหน้าหนาว หลังจากที่ฝนหยุดแล้วถนนแห้ง เค้าปรับเกรดทำทางให้รถ ปิคอัพ และ FW พอผ่านได้ ส่วนรถเก๋งก็ลำบากหน่อย หรือ แทบไปไม่ได้ แต่ถ้าเป็นหน้าฝน นี่แทบหมดสิทธิ์ที่รถจะผ่าน แม้แต่ FW ถ้าไม่ได้ยกสูงจริงๆ ดอกยางลึกจริงๆ ก็คงผ่านยาก
หน้าฝนคนเลยไม่ค่อยไปทีลอซู แต่ถ้าหน้าหนาวล่ะก้อคน แน่นหาที่กางเต็นต์ไม่ได้เลย

ระยะการเดินทางจาก กทม. ไปน้ำตกทีลอซู จะวิ่งตามสายเอเชีย ถึงแยกเข้าแม่สอด ก่อนถึงตัวเมืองตากราวๆ สิบกม. จะมีระยะทางรวม 410 กม. และ จากสายเอเชีย แยกเข้าถึงตัวแม่สอดอีก 80 กม.เป็นทางขึ้นเขาคดเคี้ยว
แต่สุดยอดความโหด คือ ระยะทาง 180 กม.สุดท้าย จากแม่สอดถึงอุ้มผาง อันนี้ เรียกกันว่าถนนลอยฟ้า มี พันสองร้อยกว่าโค้ง โดยเฉพาะ ช่วงครึ่งทางหลัง ก่อนเข้าอุ้มผาง ถนนแคบโค้งสั้นๆ ทางชันรถตกถนนกันบ่อยๆ ระยะทางจากแม่สอดถึงอุ้มผาง แค่ 180 กม.แต่ส่วนใหญ่ วิ่งกันราวๆ 4 ชม.ยกเว้นฝีมือดีรถดี ก็อาจจะทำเวลาได้ดีกว่านี้
การเที่ยวทีลอซูหน้าหนาว ที่นิยมกันคือ เมื่อถึงอุ้มผางแล้ว จะล่องแพยาง ชมวิว สองข้างทาง ไปขึ้นที่ผาเลือด แล้วต่อรถสองแถว หรือ FW ขึ้นไป ยังจุดกางเต็นต์ และบริการนักท่องเที่ยว อีก 14 กม. แล้วค่อยเดินเท้า ตามทางเดิน ระยะทาง 1.5 กม.ไปยังตัวน้ำตก
หรือจะขับรถ จากอุ้มผางขึ้น ไปจุดกางเต็นต์เลยก็ได้ระยะ รวมราวๆสามสิบกว่าโล แต่ส่วนใหญ่ ช่วงแรก จะนิยม ล่องแพไปลงที่ผาเลือด ก่อนต่อรถกระบะที่รับเหมา จากผาเลือดขึ้นยังจุดกางเต็นต์กันมากกว่า
ผมไปทีลอซู หน้าหนาวโดยเฉพาะปีใหม่ มา สามครั้งแล้ว ต้องบอกว่า เป็นน้ำตกที่ใหญ่และสวย มากที่สุดของไทยแห่งหนึ่งทีเดียว


น้ำตกทีลอซูหน้าหนาว(ปีใหม่ปี 2554)

แต่หลายคนบอกว่า ถ้าจะดูทีลอซูให้สวยที่สุด ต้องไปหน้าฝน ซึ่งน้ำมาก น้ำตกจะตกมาแบบอลังการณ์ จนบางคนบอกว่า มันได้รับการยกให้ เป็นน้ำตกที่สูง สวยอันดับหกของโลก
แต่การเดินทางไป หน้าฝน รถยนต์เข้าไม่ได้ เราต้องเดินเท้า ไปกลับกันราวๆ ยี่สิบโล ไปยังจุดกางเต็นต์ บนนั้น แล้วจากจุดกางเต็นต์ ค่อยเดินเท้าสบายๆ เข้าน้ำตก อีก 1.5 กม.
ปีนี้ก๊วนเดินป่าผม ชวนกัน เดินขึ้น ไปทีลอซู และจะปีนผา ขึ้นไปดูทีลอซู มุมสูง ด้วย ก็เลย ไปกับเค้า
การเดินทาง คราวนี้ไปกันด้วย รถตู้ D4D สามคัน ออกจากกทม.ค่ำๆ ตอนไปถึง เส้นแม่สอด อุ้มผาง ประมาณกลางทางราวๆตีสี่ เจอดินถล่มขวางเส้นทาง รถคันหน้าสุดของเราไถลไปติดในกองดิน แต่ก็แซะ แล้วก็ช่วยกันเข็นผ่านไปได้ (แต่ขากลับมา อีกสองวัน) พบว่าจุดนี้ มีรถปิคอัพ พลิกคว่ำตกถนนหนึ่งคัน สิบล้อ ตกไหล่ทางหนึ่งคัน และ พลิกคว่ำอีกคัน ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าสองวันที่ผ่านมาทำไม เค้ายังปรับมันไม่เสร็จจนเกิดเหตุซ้ำๆ หนักขึ้น )

กว่าจะเริ่มเข้าเขตอุ้มผาง ฟ้าก็เริ่มสาง เราผ่านหมู่บ้านอุ้มเปี่ยม หมู่บ้านอพยพ และ จากบนเขา มองลงไปในหุบเขาสู่อำเภออุ้มผางเห็นทะเลหมอก และวิวสวยงาม

หลังจากไปไปถึงบ้านคนนำทางที่อุ้มผาง ก็เช้าพอดีหลังจากอาบน้ำ กินข้าว แล้ว เตรียมตัวล่องแพยางชมวิว กันไปเรื่อย

น้ำในการล่องแก่ง ของทีลอซู จะไม่แรงมากนักแม้จะเป็นหน้าฝน นั่งแพล่องกันไปสบายๆ ชมวิวสองข้างทาง วิวหน้าฝนจะชุ่มชื้นเขียว สวยงามแปลกตาไปกว่าหน้าหนาว ตะไคร่ตามสองฝั่งหน้าผา มีขึ้นหน้าตา และมีน้ำตกเล็กๆไหลตามหน้าผาลงมาตลอดทาง บางช่วงชองหน้าผา มีหินรูปร่างแปลกตา อันมุมล่างขวา จินตนาการกันเอง ว่าเหมือนอะไร :P

เราล่องแพกัน ราวๆ สองสาม ชม.ไปยังจุดหมายปลายทางที่ บ้านท่าทราย ก่อนขึ้นจากแพ เตรียมเดินทางต่อไปยัง น้ำตกทีลอซู

ปกติถ้าเป็นหน้าหนาว รถปิคอัพวิ่งเข้าไปยังจุดกางเต๊นต์ ทีอช. ข้างบนได้แล้ว อย่างที่บอก ส่วนใหญ่ คนที่ไป เค้าจะล่องแพไปลงที่ผาเลือด ต่อรถอีก 14 กม.เข้าไปยัง จุดกางเต็นต์
แต่ว่าหน้าฝนทางเละรถขึ้นไม่ได้ต้องเดินเท้าเราเลยล่องแพ เลย เข้าไปอีก ไปลงที่ท่าทราย แล้ว ขึ้นจากแพ เดินเท้าตัดเขา ไปอีกราวๆหนึ่งกม.ไปขึ้นถนนหลัก แล้วเดินเท้าไปตามถนน เข้าสู่ ที่ทำการ ทีลอซู อีก 9 กม

ที่ จุดกางเต็นต์ ใกล้ที่ทำการอุทยาน ในหน้าฝนวันที่เราไป ไม่มีนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นเลย พื้นที่กางเต็นต์ที่เคยแน่นขนัดวันนี้ ว่างไปหมด เราเลยเลือกกางเต็นต์กันในอาคารโรงอาหาร เพื่อไม่ต้องเปียกฝนกันเลย หลังจากจัดการเรื่องที่พัก เรียบร้อย วันแรกเรา เดินเท้าเข้าไป ยังยอดเขาด้านตรงข้ามกับน้ำตกทีลอซู เพื่อดู น้ำตกทีลอซูจากมุมสูง การเดินทางบางช่วงต้องปีนไต่ไปตามหน้าผา และสันเขาต้องใช้เชือกช่วยในการดึงพยุงตัวเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากมีคนเคยตกลงมาได้รับอันตรายกันเหมือนกัน

สำหรับเส้นทางเดินป่าทีลอซูหน้าฝน ก็มีไม้ดอกแปลกๆสวยงามให้ดูบ้างพอสมควร สำหรับคนชอบถ่ายรูปดอกไม้

เมื่อขึ้นมาถึงหน้าผาของเขาด้านตรงข้ามกับน้ำตก มองจากมุมสูง เราจะมองเห็นน้ำตกทีลอซุจากระยะไกล ตกลงมาจากรอบๆด้านได้มุมกว้างสวยแปลกตาไปอีกแบบ

เช้าวันรุ่งขึ้นหลังอาหารเช้าเราเดินย้อนเข้าไปราวๆ 1.5 กม.เพื่อเข้าไปชมน้ำตกทีลอซู ด้านล่างในมุมมองปกติเพื่อสัมผัสความอลังการณ์ของน้ำตกอย่างใกล้ชิด


หน้าฝนน้ำตกจะมีน้ำมากตกแรง ละอองน้ำฟุ้งกระจายทั่วไปหมด กล้องที่ไม่กันน้ำทั้งหลายต้องคอยหลบละอองน้ำ ได้อาศัยกล้องกันน้ำคอมแพ็คถ่ายกันเป็นหลัก น้ำตกจะไหลออกจากหนาผาเกือบทุกด้านพร้อมกัน ทั่วทั้งเขา เสียงดังกึกก้องน้ำเชี่ยวกรากแดง เหมือนน้ำป่า ต่างกับหน้าหนาวที่น้ำไหลไม่แรงนักใสกว่ามาก แต่ก็ได้ความสวยแปลกตาไปคนล่ะแบบ

คลิคชมคลิปความอลังการณ์ของน้ำตกทีลอซูตอนหน้าฝนได้ที่ลิงค์นี้เลยครับ

ขากลับเราเดินเท้าจาก ที่ทำการอุทยานย้อนกลับมายัง จุดล่องแพ แล้ว ล่องแพต่อไปต่อรถ ปิคอัพที่มารอรับ เพื่อกลับไปยังบ้านพักคนนำทางที่อุ้มผาง อาบน้ำอาบท่า แล้ว ทานอาหารมื้อเย็นก่อนเดินทางกลับ

สำหรับอาหารฝีมือพี่เป้า แฟน พี่สิงคำ คนนำทางของเราอร่อยมากๆ ขอบอก คงต้องย้อนกลับไปฝากท้องกันอีกถ้ามีโอกาส

Back To-=Jfk=- Trekking Corner

www.2jfk.com

มีข้อแนะนำ หรือ ข้อมูลนะนำได้ครับ

jfk@2jfk.com