-=Jfk=-
Watch Collection

Vitage Rolex Submariner Ref 16800(1980s-1984s)

Movement Caliber 3085


Vintage Submariner Ref 16800

สำหรับตัวนี้ ถือว่าเป็น Vintage Sub ที่จัดว่าค่อนข้างใหม่โดยเป็นรุ่นที่ออกมาวางตลาดในช่วงปี 1980-1984 เป็นช่วงเวลาสั้นๆ แค่สี่ปี สังเกตุได้จากเป็น Sub ตัวแรกที่เปลี่ยนระดับกันน้ำลึกเพิ่มจาก 660ft/200 m มาเป็น 1000 ft/300 m เป็นครั้งแรกในปี 1980 และ หลังจากปี 1984 แล้ว Submariner รุ่นต่อๆมา ที่ออกมา Marker บอกเวลาทั้งหมด จะมีเบ้าล้อมรอบพรายน้ำ ทำด้วยทองคำขาว (Enclosed by white gold) ตัวนี้จึงเป็น ตัวสุดท้าย ของ Submariner ที่ไม่มีเบ้าล้อมพรายน้ำ และ กระจกสำหรับตัวนี้ ก็เป็น Synthetic Sapphire Crystal เช่นเดียวกับ นาฬิกา ยุคปัจจุบันแล้ว รวมทั้งสาย Ouyster ก็เปลี่ยนจากของเดิม ที่เป็นสายโลหะพับ หรือยิง Rivettedยึด มาเป็นสาย Solid Steel เหมือนยุคปัจจุบันแทน

มองย้อนอดีตไปดู ประวัติ Submariner กันเล็กน้อย
Submariner ตัวแรกออกวางตลาด มาได้ ตั้งแต่ปี 1953 โดยตัวแรกที่ออกมาคือ Model 6200 ซึ่งใช้เครื่อง Cal A296 ซึ่งหน้าตา ต้องถือว่า แปลกตาไปกว่าตัวปัจจุบันมากทีเดียว เนื่องจากไม่มี Crow Gaurd และเข็มก็แตกต่างกันไป กันน้ำได้ 200 เมตร(แต่ไม่มีการเขียนไว้บนหน้าปัดเหมือนรุ่นหลังๆ)


Submariner Ref 6200 (1953)

และในวาระครบรอบ 50 ปี ของ Submariner เมื่อปี 2003 Rolex ก็ได้ออก Green Submariner ออกมา (ในแบบ ไม่Limited แต่ราคาก็ไม่ธรรมดา โกยตังค์ของแฟน Sub ไปได้อีกพอสมควร อิๆ)
สำหรับ Vintage Sub ที่โด่งดังอีกรุ่น และเป็นที่นิยม ในหมู่นักสะสม(เนื่องจากแม้ราคาจะแพงไปเยอะแล้ว แต่ก็ยังพอรับกันได้ ก็คือRed Submarine ระหัส 1680 โดยRed Sub นั้นทะยอย ออกมา ตั้งแต่ช่วงปี 1966-1980 (โดยบางรุ่นของ 1680 ที่ออกมาในช่วงเดียวกัน และใช้ระหัสเดียวกัน ก็มี ตัวหนังสือขาวเป็น Sub ขาวปกติ เช่นกัน และ ทุกตัวกันน้ำได้ 660 ft/200 เมตร


Red Submariner Ref 1680


มาดูหน้าตาใกล้ๆ 16800 ตัวนี้ กัน โดยรวมๆ แล้ว แทบดูไม่ต่างกับ Ref 16610หรือ Sub ตัว ปัจจุบัน มีที่ต่างชัดๆ นอกจากพรายน้ำที่เหลือง ตามวัย 30 กว่าปีของมันแล้ว ที่เห็นได้ชัดก็คือ Marker รูปสามเหลี่ยม และ จุดวงกลมทั้งหมด มีแต่พรายน้ำแต้ม ไม่มีเบ้าทองคำขาวล้อมเหมือนรุ่นปัจจุบัน และ พรายน้ารุ่นนี้ใช้ Tritium ซึ่ง จะเห็นได้จาก ที่ 6 น.เขียนไว้ว่า Swiss - T-25 ระบุว่าใช้ สารกัมมันตรังสี Tritium 25 ในการเรืองแสง ต่างกับ Luminova ในรุ่นปัจจุบัน นอกนั้นก็คล้ายคลึงกัน ขอบ Bezel เป็นแบบหมุนทางเดียว ตามไสตล์นาฬกาดำน้ำทั่วไป เม็ดมะยม มี Crown Guard กระจกเป็น Crystal Sapphire กันรอยขีดข่วน
ขนาดตัวเรือน ก็เท่ากับตัวปัจจุบัน คือ Diameter 39 mm รวม Crown 43 mm Diameter กระจก 30 Bezel 40 mm หนา 13 mm ความกว้างสาย 20 มม.

ด้านหลังฝาเกลียวอัดแน่น ที่ต้องใช้เครื่องมือเปิดพิเศษ ของโรเล็กซ์ตามสไตล์ของ Ouyster ทั้งหลาย เรือนนี้ สติคเกอร์ฝาหลังสีเขียวแกะออกเรียบร้อยแล้ว ทำให้ฝาหลังยังคงเรียบร้อย ไม่มีการผุกร่อนตามกาลเวลา สภาพตัวเรือนที่ได้มา ถือว่าสวยในระดับน่าพอใจ สำหรับนาฬิกา อายุ 30 กว่าปี


ด้านข้างตัว เรือน จะเห็นมีรู(หูไม่ตันไม่ตึง :P :P )

สาย Ouyster เป็น Solid Steel ขันต่อด้วย Screw รวมทั้งบานพับ ที่มี Extended Fold สำหรับใชักับ Wet Suit ตอนดำน้ำ เหมือนๆกับ ตัวปัจจุบัน สภาพดีเช่นกัน บอกซ้ำๆไว้ เผื่อตอนปล่อย อย่าได้มากดราคากัน อิๆ


จับหล่อแก่ ตัวซ้าย มาเทียบความหล่อกับหล่อหนุ่ม Subdate ตัวปัจจุบัน 16610 Series D ตัวกลาง และหล่อล่ะ SD ตัวขวา ก็หล่อไปคนล่ะแบบ :P :P

Shot บังคับ Wrist Shot กับข้อมือขนาดเล็ก 6 นิ้ว ก็ไม่เล็ก ไม่ใหญ่เต็มพอดีๆ สวย ครับ

สรุป สำหรับ คนที่สะสมนาฬิกา Rolex คงเป็นแบรนด์ ที่มักจะต้องมีกันเกือบทุกคน และ รุ่นยอดนิยมของ Rolex ก็หนีไม่พ้น Sub Date ที่ ส่วนใหญ่มีเก็บกัน ผมเองก็ พยายามหามาเก็บให้ครบชุดเหมือนกัน เจอ Sub Dateตัวปัจจุบัน ของใหม่ที่ Hongkong เที่ยวนี้ราคาดีมาก 140,000 นิดๆ ถูกกว่าบ้านเราเกือบห้าหมื่น แต่กลับไม่หิ้วกลับมา แต่มาปิ๊งไอ้ตัวเก่าแก่ๆ นี่แทน ในราคาที่แพงกว่า ของใหม่นิดหน่อย มันก็แปลกดี สำหรับคนเล่นนาฬิกา เนอะ ของ ที่ของใหม่ถูกกว่า ไม่เอา แต่ไปหาของเก่า สภาพสวยๆมาดูกันแทน
ว่าแต่ใครเจอที่เก่ากว่า นี้ คือ Red Sub สวยๆ ราคาไม่แรง จนเกินไป ส่งข่าวกันมั่งนะ :P

Back to Jfk watch Collection

www.2jfk.com

มีข้อแนะนำ หรือ ข้อมูลเพิ่มเติมแนะนำได้ครับ

jfk@2jfk.com