-=Jfk=- Super Bike Experience

Can - Am " SPyDER" Roadster SE5 2009

รถไรหว่า เป็นรถยนต์ก็ ขาดไปล้อนึง
แมงกาไซค์ก็เกินมาล้อนึง
ซาเล้งก็ไม่มีกระบะใส่ของ :P

SPyDER เป็นผลงาน ของ BRP (Bombardier Recreation Product Inc ) ยักษ์ใหญ่ วงการ Power Sport ของ Canada ที่เป็นผู้ผลิตพาหนะในหลากเส้นทาง มาแล้วเช่น
บนเส้นทางหิมะ BRP มีเลื่อนหิมะ (Snowmobile) ในชื่อ Ski-Doo และ Lynx ที่โด่งดัง
ในพื้นน้ำ และ แม้แต่ใต้ท้องทะเล BRP เป็นผู้ผลิต Power Boat JetSki ตลอดจน ยานดำน้ำ ใน Brand ยักษ์ใหญ่" Sea-Doo" ที่รู้จักกันดี
ส่วนบนบก BRP มี Can-Am all-terain verhicles (ATV) ลุยทางวิบากมาแล้ว
จนที่สุดในปลายปี 2007 Can Am Roadster Spyder 2008 คันแรก จึงได้ ถือกำเนิดขึ้นมา เพื่อเป็น On Road Verhicle ของค่ายนี้ ในตลาดอเมริกา ก่อนที่ จะขยายส่งมอบ มายังตลาดอื่นๆ ทั่วโลก ในต้นปี 2008 และ ได้รับการต้อนรับ อย่างดี จากนักซิ่งทั่วโลก

Spyder หรือ Spider หลายคนคงคุ้นๆ จาก ชื่อรุ่นของรถสปอร์ตเปิดประทุน อย่าง Ferrari หรือ อีกหลายค่าย บางคนพาลเรียกมันว่า ไอ้แมงมุมตามชื่อ
แต่จริงๆแล้ว ชื่อ Spyder เป็นชื่อที่ได้ มาจากรถม้าโบราณ ที่ มีรูปทรงเพรียว นั่งได้ 2 ที่นั่ง และมีหลังคาผ้าใบ เปิดถลกรับลมได้ และได้ถูกนำมาใช้เรียกรถสปอร์ตสองที่นั่งเปิดประทุนในหลาย Brand
แต่ก็มีบางคน บอกว่า Spyder มัน เป็นคำพ้องเสียงกับ Speeder หรือ sportcar ก็มี แต่ที่แน่ๆไม่ได้หมายถึง แมงมุม 8 ขาแน่นอน :P

Concept ในการออกแบบ SPyDER ของทีมงาน ของ BRP ก็คือ การออกแบบ ยานพาหนะ บนท้องถนนที่ให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสกับ สายลมเปิด เหมือนกับ มอร์เตอร์ไซค์ แต่ได้ความปลอดภัย และ ความสะดวกสบาย โดยเพิ่มเทคโนโลยี่ต่างๆของ รถยนต์เข้าไว้ด้วย โดยกลุ่มเป้าหมายคือ คนทำงานที่อยากได้ยานพาหนะที่ พาโลดแล่นสนุกสนานไ ปกับวันหยุดพักผ่อนสุดสัปดาห์ หรือเป็น อาชาคู่ใจของ Weekend Warrier นั่นเองโดยใช้ Concept " Y-Factor " ตามรูปแบบการสัมผัสพื้นของ ล้อทั้ง 3 หน้า 2 หลัง 1 เรียงตัวเป็นรูปตัว Y ของ SPyDER นั่นเอง

ถ้า เปรียบ SPyDER เป็นคน โครงสร้างของมันจะประกอบด้วย
Skeleton ( โครงกระดูก ) ก็คือ Frame ที่ ออกแบบด้วย Surrounding Spar Technology (SST) โดยการออกแบบ ให้ มีโครงสร้างของเฟรมล้อมรอบเครื่องยนต์ ลดแกนกลางลง และ ลดจุดเชื่อมต่อให้น้อยที่สุด ส่งผลให้ได้เฟรมที่ เบา เพรียว และ แข็งแรง ตลอดจนมี จุดศูนย์ถ่วง (CG) ต่ำ ช่วยให้การทรงตัว และ ควบคุมได่ดี ที่ความเร็วสูง

Muscle ( กล้ามเนื้อ ) ที่ถ่ายทอดกำลัง อย่างไหลลื่นต่อเนื่อง เหมือนกระแสน้ำ ด้วยเกียร์ 5 speed ซึ่งออกแบบมาเพื่อ Spyder โดยเฉพาะ พร้อมทั้งเกียร์ถอยหลัง และ ส่งกำลังขั้นสุดท้ายไปยังล้อหลัง ด้วยสายพานขนาดใหญ่ อย่างราบเรียบ แต่มีพลัง และบำรุงรักษาง่าย


Final Drive ขับเคลื่อนด้วยสายพาน Carbon Rubber เหมือน Harley Davidson แต่ Pulle ไซซ์ ยักษ์กว่าเยอะ:P

Heart ( หัวใจ )ของ Spyder คือ เครื่องยนต์ Rotax 990 cc V-Twin DOHC 4 วาล์ว/สูบ ระบายความร้อนด้วยน้ำให้กำลัง 106 hps ผลิตโดย BRP-Rotax Company ใน Austria ซึ่งเป็น บริษัทที่ผลิต เครื่องยนต์ให้กับ มอร์เตอร์ไซค์ชั้นนำหลาย แบรนด็ รวมทั้ง BMW เช่นเครื่อง F650 GS ที่ผมใช้อยู่ ก็ เป็นเครื่อง จาก Rotax นี้เช่นกัน.
Nervous system or Brain ( สมอง) มัน มี Electronic Control Units (ECUs). ที่คอยควบคุมทั้งการทำงานของเครื่องยนต์ ตลอดจน ระบบควบคุมการทรงตัว เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในขณะขับขี่ Vehicle Stability System (VSS) ในสถานะการณ์ต่างๆ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด

การทำงาน Verhicle Stability System ( VSS ) ประกอบด้วย

1 Anti Lock braking System ( ABS) ป้องกันล้อล้อค ทั้ง 3 ล้อ ขณะเบรคกระทันหัน แยกกันอิสระแต่ละล้อ ทำงานโดยการเหยียบแป้นเบรคที่เท้าขวา

2 Traction Control system (TCS ) ป้องกันล้อหลังหมุนฟรี เวลาออกตัวแรงๆ และที่สำคัญ มันช่วยป้องกัน ท้ายปัดควบคุมไม่ได้ขณะเข้าโค้งแรงๆ
เนื่องจากถ้าเข้าโค้งแรงๆ โดยเฉพาะ บนถนนลื่นๆ ถ้าเร่งเครื่องมาก จนแรงยึดเกาะระหว่างยางกับพื้นถนนมันไม่เพียงพอ จะทำให้ล้อเริ่มหมุนฟรี ส่งผลให้ แรงเสียดทานที่ล้อหลังลดลง ซึ่งถ้าเป็นขณะเข้าโค้ง จะส่งผลให้ท้ายจะปัดสไลด์ออกไปควบคุมไม่ได้
ระบบ TCS มันจะมี Speed Sensor ที่ล้อหลังคอยจับ การทำงาน ของความเร็วของล้อหลัง เมื่อใดก็ตามที่ล้อหลัง มีแนวโน้ม ว่าจะ เริ่มหมุนฟรี sensor ควบคุม จะสั่ง ตัดลดการทำงานของระบบจ่ายเชื้อเพลิงให้ทำงานน้อยลง เพื่อผ่อนกำลังที่จะส่งผ่านแรงไปที่ล้อหลังให้น้อยลง ให้อยู่ใน ลิมิตยาง และ พื้นถนนยังยึดเกาะกันได้ ดี ไม่หมุนฟรี ทำให้ไม่มีการไสลด์ ท้ายปัดเข้าโค้งได้ปลอดภัย ด้วยความเร็วที่เต็ม Limited ของมัน โดยคนขับไม่ต้องระวังการเร่งความเร็วมากเกินขีดจำกัด (โดยระบบจัดการให้เอง) ทำให้เข้าโค้งได้ แรงเต็มๆ แบบค่อยต้องกลัวไสลด์เท่าไร(แต่ไว้ใจระบบมากไปก็ไม่ดี เผื่อไว้หน่อย อิๆโดยเฉพาะถ้าบรรทุกหนักเกิน)


กล่องดำนี้คือ Speed sensor ที่ล้อหลังจับสัญญานกระตุ้นจากแผ่นเฟืองหยักที่ข้าง Dics Brake

3 Stability Control System (SCS ) with Roll-Over Mitigation เป็นระบบช่วยป้องกัน ล้อยก เสียการทรงตัวเวลาเลี้ยวแรงๆ กระทันหัน โดย เมื่อเลี้ยวแรงๆกระทันหัน จนทำให้ล้อด้านตรงข้ามกับทิศทางที่เราหักเลี้ยวเริ่มจะยกลอยจากพื้น sensor จะตัดการทำงานเครื่องยนต์ลดแรงที่ส่งไปล้อหลัง แล้ว สั่งเบรค ล้อด้านในที่กำลังจะเลี้ยวไปในนั้นให้ลดความเร็วลงทำให้แรงยกของล้อด้านนอก ลดลง ไม่ยกลอยสูงเกิน 2ซม. เพื่อป้องกันการยกล้อเอียงเทกระจาดแบบซาเล้ง เข้าโค้ง


แผ่นจานของ Speed Sensor ที่ล้อคู่หน้าก็มี ช่วยการทำงานในระบบ SCS

นอกจากนี้ Spyder ยังมี ระบบ Dynamic Power Steering หรือ พวงมาลัยเพาเวอร์( เอ๊ะ หรือว่า ต้องเรียก แฮนด์เพาเวอร์ หว่า :P ) ช่วยผ่อนแรงในขณะขับขี่ความเร็วต่ำ และ ผ่อนแรงน้อยลงเมื่อความเร็วสูง ช่วยให้ไม่ต้องเหนื่อยโหนเวลาเข้าโค้ง

มาดูรอบๆคัน กัน SPyDER มีรูปทรงแปลกตา หน้า 2 ล้อ หลัง 1 ล้อ เรียงตัวเหมิอนอักษร Y หลายคน แซวว่ามันแอบขโมยรูปทรง ซาเล้งเราไป แน่นอน :P
ล้อAluminium alloy wheel ลาย 3 ก้านคู่ ทั้ง 3 ล้อ
ล้อหน้า
ขนาด14" x 5" พร้อมยางขนาด 165/65 R14 เติมลมยาง 13-17 psi หรือ ตัวแทนในไทยแนะนำที่ 20 psi
ล้อหลัง ขนาด15" x 7" พร้อมยางขนาด 225/50R15 เติมลมยาว 26-30 psi ตัวแทนในไทยแนะนำที่ 30 psi
Brakes
ทำงานโดยการเหยียบแป้นเบรคที่เท้าขวา สั่งปั๊มป์ไฮดรอลิค ให้ทำงานพร้อมกัน ทั้ง 3 ล้อ
เบรคหน้า เป็น Caliper 4 ลูกสูบ พร้อมจานเบรค ขนาด 260 mm x 6 mm
เบรคหลัง เป็น Caliper 1 ลูกสูบ พร้อมจานเบรค ขนาด 260 mm x 6 mm
มีระบบ EBD( Electronic Brake Distribution) ช่วยกระจายแรงเบรค และ ระบบ ABS (Anti-lock Braking System) ป้องกันล้อล้อคตาย ขณะเบรคกระทันหันหรือบนถนนลื่น

Parking brake อยู่ที่ ด้านหลังของ พักเท้าซ้าย ทำงานจับที่เบรคหลัง มีเสียงเตือน ให้ใส่ Parking Brake เมื่อดับเครื่อง และไฟเตือน เบรคมือค้างเมื่อติดเครื่อง (ส่วนรูป ขวาเป็นเบาะนั่งคนซ้อน มีมือจับขนาดใหญ่ ให้คนซ้อนจับได้อย่างมั่นคงรับแรงเหวี่ยงเวลาเข้าโค้ง ) นอกจากนี้ ยังมี Option เสริมแผงรองวางของด้านท้ายพร้อมตัวยึด พนักพิงหลังคนซ้อน (Back Rest) ให้เลือก


ช่วงล่างด้านหน้า ของ Spyder เป็น Multilink พร้อมเหล็กกันโคลง เหมือนรถสปอร์ต และ รถ F1 และใช้ช้อคอัพวางตัวเฉียง เป็นรูปตัว A ซับแรงกระแทก ให้การทรงตัวที่ ดี ทั้งทางตรง และ เวลาเข้าโค้ง ยิ่งทำงานร่วมกับ ระบบ SCS ยิ่งทำให้เข้าโค้งได้ด้วยความมั่นใจ
ช้อคหน้าปรับแข็งอ่อนได้หลายระดับ ตามไสตล์การขับขี่ และ น้ำหนักบรรทุกและผู้ขับขี่

ช้อคอัพหลัง แบบเดี่ยวางกลางใต้เบาะ

สวิทย์กุญแจ ใช้งานหลายอย่าง ตำแหน่ง Off เป็นตำแหน่งเสียบ กุญแจเข้า และดึงออก ตำแหน่ง On เป็นตำแหน่งเปิดไฟให้กับระบบ บิดเลยไป เป็นการสตาร์ท ถ้าปิดเครื่องแล้ว บิดแฮนด์รถให้หมุนไปสุดซ้าย หรือ ขวา ก็ได้ แล้วบิด ไปทางลูกกุญแจ จะเป็นการล้อคคอ รถ
ถ้าจากตำแหน่ง ออฟ กดกุญแจลงไป ล้วบิดทวนเข็ม จะดึงเปิดฝาช่องเก็บของได้ (ตอนปิดกดฝาปิดไปได้เลย)
ส่วนถ้าบิดตามเข็มนาฬิกา จะเป็นการเปิดเบาะเพื่อเติมน้ำมัน
กุญแจ มี ระบบ Digitally Encoded Security System หรือ กุญแจระบบ Immobilizeป้องกันกุญแจผี มาให้ด้วย มีมาให้สองดอก ถ้าหาย ล่ะก้อ แฮ่ะๆ เบิกบริษัทลูกเดียว :P

Console
หน้าปัด ประกอบด้วย วงหลัก 3 วง
ด้านซ้าย เป็น Analog Speedometer เข็มบอกอัตราเร็ว (ปรับตั้งได้ให้หน่วยเป็น Km/hr หรือ mile/hr ได้ ง่ายๆ)
ด้านขวา เป็น Analog Tachometer บอกรอบเครื่องยนต์ ( RPM ) ด้วยเข็ม พร้อมทั้งไฟเตือนสัญญานต่างๆทั้งสอง ด้าน
วงกลาง เป็นจอ LCD ด้านบน เป็น Digital Speedometer บอกความเร็ว อันกลาง เลือกเปลี่ยนที่ S ได้ว่าจะแสดงอุณหภูมิสิ่งแวดล้อม หรือ รอบเครื่อง
ด้านซ้ายของวงกลางมีแถบบอกอุณหภูมิเครื่องยนต์ ส่วนแถบด้านขวา บอกปริมาณเชื้อเพลิง ส่วนตรงกลางระหว่างแถบทั้งสอง จะบอกตำแหน่งเกียร์ (ไฟสัญญานเกียร์ว่าง N สีเขียว จะอยู่ที่วงด้านซ้าย และ ไฟเกียร์ถอยหลัง R สีส้ม จะอยู่วงด้าน ขวา เพิ่มด้วย)
หน้าต่างเล็ก ด้านล่างของวงกลาง ใช้บอก Odometer ,Trip A ,Trip B , Trip Time , All Time และ เป็นนาฬิกาบอกเวลา

ปุ่ม Set (S) ที่แผงเหนือหน้าปัด ใช้กดค้างเพื่อ Set หน่วย หลังจากกดค้าง จะมีไฟวิ่งบอกให้เลือก กด M เพื่อเลือกหน่วยเป็นกม. หรือ กด S เพื่อเลือกหน่วยเป็น Mile เมื่อเลือกแล้ว จะ มีไฟวิ่งต่อให้เลือกเปลี่ยนหน่วย อุณหภูมิของอากาศภายนอก โดยกด M เลือกเป็น องศา C และ กด S เลือกเป็น องศา F
ถ้าระหว่างใช้งานปกติการกดปุ่ม S จะสวิทย์หน้าปัดนี้ ระหว่าง Digital Tachometer(บอกรอบเครื่องเป็นตัวเลข) กับ อุณหภูมิ)

ปุ่ม Mode (M) ที่หน้าปัด หรือที่ ด้านหน้าของแฮนด์ด้านซ้าย ใช้เพื่อ Activated การทำงานของเครื่องยนต์ก่อนออกตัว หลังสตาร์ท เครื่องแล้ว ตลอดจนใช้ เปลี่ยนฟังชั่น ระหว่าง Odometer ,Trip A ,Trip B , Trip Time , All Time เป็นนาฬิกาบอกเวลา ถ้ากดค้างใน Trip A ,Trip B , Trip Time จะเป็นการ Reset Trip นั้นด้วย
ถ้ากดค้างในตำแหน่งนาฬิกา จะเป็นการตั้งเวลา โดยกด M ค้างไฟจะให้เลือก ระหว่าง 12 หรือ 24 ชม.
เมื่อกด M ต่อ จะเลื่อนไปตั้ง ชม. (ตั้งโดยกดปุ่ม S ) และ กด M อีกครั้ง จะเลื่อนไปตั้งนาที )
ปุ่ม M ปกติแล้ว เลือกใช้ทั้ง 2 ตำแหน่ง ตามถนัด แต่ถ้าออกตัวแล้ว ใช้ที่แฮนด์ซ้ายจะถนัดกว่า แต่ถ้าตั้งเวลาควรจอดรถ และใช้ ปุ่ม M ที่หน้าปัด

แผงไฟ หน้าปัด ตอนกลางคืน ตำแหน่งนี้ถ่ายตอนเปิดสวิทย์ใหม่ๆ ไฟเตือนต่างๆติดทุกดวง เข็มมาตรวัด ความเร็ว และ วัดรอบ กวาดไล่ตลอดหน้าปัดก่อน กลับคืนสู่ ตำแหน่ง 0 รอ การสตาร์ท

กระจกมองหลังทรงสวยปรับมองได้ถนัด ก้านแข็งแรงด้านหลังของกระจก ทำหน้าที่เป็นไฟเลี้ยวด้วยในตัว การปรับจะเปลี่ยนมุมที่แผ่นกระจก ไม่ได้ปรับที่ตัวก้านด้านนอกทำให้มุมมองของไฟเลี้ยวด้านหน้าไม่บิดผิดตำแหน่ง

ปุ่มควบคุมที่แฮนด์ด้านขวา ประกอบด้วย
ปุ่มแดง เป็นตัวตัดไฟเปิดการทำงานของเครื่องยนต์ พร้อม ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ด้านล่าง
สวิทย์ไฟฉุกเฉิน ใช้ผลักเลื่อน อยู่ตรงกลาง
ด้านหน้าของแฮนด์ มีปุ่ม Overide Headlight อยู่ด้านหน้า ซึ่งกดโดยตรง โดยการยื่นนิ้วไปเกี่ยว จะทำไฟหน้าจะติด แม้ว่าสวิทย์จะไม่ได้เปิดก็ตาม ตลอดจนใช้เปิดไฟช่องเก็บของ ขณะรถจอดด้วย

ปุ่มควบคุมที่ แฮนด์ด้านซ้ายประกอบด้วย
ปุ่มบนสุดเป็นสวิทย์ไฟหน้า ซึ่งไฟหน้า จะเปิด เองอัตโนมัติ เมื่อรอบเครื่องยนต์ สูงเกิน 800 RPM (ก็หมายถึงสตาร์ทเครื่องยนต์แล้วนั่นแหละ เพราะว่า รอบเดินเบามันอยู่ที่ ราวๆ 1400 RPM ตำแหน่งกดบนสุดของปุ่มเป็นไฟสูง ตรงกลางเป็นต่ำ และถ้ากดเลยลงมา ทางด้านล่าง จะเป็น สวิทย์ Dip ไฟสูง( ไฟให้ทาง)
ปุ่มแตร อยู่ถัดลงมา ( อยู่ห่างนิ้วเวลากำแฮนด์ไปนิดนึง โดยเฉพาะถ้าใส่ถุงมือหนา อาจจะกดไม่ถนัดนัก)
สวิทย์เปลี่ยนเกียร์ เกียร์ของ Spyder ซึ่งเป็น Sequential Electronic Mechanical Transmision 5 speed with 1 Reverse Gear
เปลี่ยนเกียร์ ด้วยการกดปุ่มบวก เพิ่มเกียร์ขึ้น และ ปุ่มลบ (อยู่ทางด้านหน้าใช้นิ้วเกี่ยวดึงกลับ) เป็นตัวลดเกียร์ลง (แต่ถ้าขณะขับขี่อยู่ ถ้าความเร็วลดต่ำลง รถจะปรับลดเกียร์ลงให้ตามความเร็วเพื่อรักษารอบเครื่องไว้ แต่ถ้าจะเพิ่มเกียร์ต้องกดบวกเพิ่ม ไม่งั้นก็ลากเกียร์กันจนถึง Red Line ที่แถวๆ 11000 นั่นแหละ อิๆ
สำหรับ การเข้าเกียร์ถอยหลัง ต้องจอดนิ่งก่อน แล้วดึง ปุ่มลบ เข้ามาค้างไว้ พร้อมกับกด R (ถ้าเครื่องดับขณะค้างในเกียร์ต่างๆ สามารถสตาร์ทเครื่องได้ โดยเหยียบเบรคค้างไว้ก่อน แล้ว ค่อยกดเปลี่ยนเกียร์ )
ด้านหน้าของแฮนด์ซ้าย ยังมีสวิทย์ Mode อีกอันใช้เกี่ยวด้วยนิ้วมือได้ ทำงานเหมือนปุ่ม M (Mode) ที่แผงหน้าปัด ใช้เพื่อ Activated การทำงานของเครื่องยนต์ก่อนออกตัว หลังสตาร์ท ตลอดจนใช้ เปลี่ยนฟังชั่น ระหว่าง Odometer ,Trip A ,Trip B , Trip Time , All Time แถ้ากดค้างใน Trip A ,Trip B , Trip Time จะเป็นการ Reset Trip นั้นด้วย

ด้านหน้า จะเห็นใต้ฝากระโปรงหน้า เป็นช่องเก็บของ ขนาดประมาณ 44L รับน้ำหนักได้ 16 กก.ใส่หมวกกันน็อค Full size ได้ 2 ใบ
Head light ไฟหน้า ของ Spyder เป็นแบบ Projector แยกเป็น 2 ชุด ชุดบนเป็น ไฟสูง ส่วนชุดล่างที่เห็นแล้ว อาจจะคิดว่าเป็น Fog Lamp นั่นเป็นไฟต่ำ ไฟติดรถที่ให้มาเป็น Halogen แต่มี Xenon ให้เลือก เป็น Option เสริมถ้าต้องการ แต่ว่า ไฟหน้าที่ติดรถทั้งไฟต่ำและไฟสูงสว่างใช้ได้ดี
ไฟเลี้ยวด้านหน้า อยู่ที่ด้านหลังของกระจกมองหลัง ดูกลมกลืนเห็นได้ชัด ส่วนไฟที่บังโคลนของล้อหน้าทั้งสองด้านนั้นเป็นไฟหรี่ติดตลอดเวลาเมื่อเปิดสวิทย์

ด้านท้าย ไฟเลี้ยวสองข้าง มองเห็นชัดเจน
แผ่นติดป้ายทะเบียนมีไฟส่องป้าย ตามกฏหมาย สำหรับรถวิ่งบนถนน กันโคลนท้ายขนาดใหญ่ รวมทั้งของล้อหน้าทั้งสองด้านนี่ กันโคลนได้เต็มๆ
ท่อไอเสีย ขนาดใหญ่ด้านขวา แบบ 2-1 (จากสองสูบออกมารวมเป็นท่อเดียว) เสียงไม่ดังมาก ซึ่งถ้าคนที่ต้องการเสียงท่อที่ดุดันขึ้น ก็มีท่อแต่งของ Can Am ซึ่งช่วยเพิ่มความแรงได้อีกเล็กน้อย ให้เลือกใช้ แต่ก็เป็นท่อเดียวหมือนกัน ถ้าเป็นออกสองข้างคู่ นี่น่าจะดูดีกว่านี้ มั้ง

ตอนนี้ ที่บ้าน เหลือปลายท่อ Slip On คู่ตัว ของ Hayabusa 2008 ใหม่เอี่ยม ที่ถอดเปลี่ยนไปใช้ ของแต่ง Acrapovic เลยไม่ได้ใช้คู่นี้ ถ้าเอามาใส่โดยปรับแต่ง Header ให้เป็นออกสองข้างได้ จะได้ มั้ยเนี่ย ถ้าได้ น่าจะดูดีเหมือนกัน เนอะ

ความรู้สึกในการขับขี่
ถ้าคนที่ มีประสบการณ์ ในการขี่มอร์เตอร์ไซค์ โดยเฉพาะ Big Bike มาบ้าง จะทำความคุ้นเคยกับ Spyder ได้อย่างรวดเร็ว การทำงานของปุ่มควบคุมต่างอยู่ในตำแหน่ง คล้ายกับ มอร์เตอร์ไซค์ ยกเว้น เบรค ที่ สั่งการด้วยเท้า แทนที่จะเป็นเบรคมือ ซึ่งเป็นเบรคหลักของมอร์เตอร์ไซค์ ทั่วไป
เกียร์บังคับเปลี่ยนได้ง่าย ด้วยการกดปุ่ม การทำงาน คล้ายๆเกียร์ทริปทรอนิค ของรถยนต์ แต่ว่า การเปลี่ยนเกียร์สูงขึ้นต้องกดปุ่ม + เพิ่มไล่เกียร์ไป (ไม่งั้นเครื่องจะลากรอบไปเรื่อยๆ) แต่ถ้า ความเร็วลดลง เกียร์จะเปลี่ยนลงต่ำมาให้เอง โดยอัตโนมัติ รักษารอบเครื่องไว้ ให้เหมาะสม (ตอนเปลี่ยนเกียร์ จะมีเสียงกระตุกเล็กน้อย แต่ไม่ได้รู้สึกกระชากแต่อย่างใด)
ครั้งแรก ที่ขี่ออกไป อาจจะรู้สึกๆ ฝืนขัดๆ ในการบังคับเลี้ยวที่ต่างกับ Big Bike ที่เราเลี้ยวโดยการเอนตัว ไปในโค้ง แต่ Spyder เราเลี้ยวด้วยการหมุนแฮนด์เป็นหลัก โดยดึงแฮนด์ด้านที่ต้องการเลี้ยวเข้ามา และดันแฮนด์ด้านตรงข้ามออกไป ส่วนการเอียงตัว เข้าโค้ง ไม่ได้ช่วยการเลี้ยว แต่ช่วยเพิ่มการถ่วงน้ำหนัก และลดแรงเหวี่ยงตัวเราไม่ให้หลุดออกไปตามแรงหนีศูนย์กลางเท่านั้น ความรู้สึก จะคล้ายกับ การขับขี่ ATV แต่ Power Steering ของ Spyder ช่วยผ่อนแรงได้ มากและช่วยให้การเลี้ยวที่ความเร็วสูงง่ายดายและแม่นยำ
ระบบ SCS ช่วยให้การเข้าโค้ง สนุก และง่าย ไม่ต้องกลัวการยกล้อเทกระจาดแบบซาเล้ง
ระบบ TCS ป้องกันท้ายปัด ขณะเข้าโค้งแรงๆ
ดังนั้น สามารถสนุกกับการเข้าโค้งได้เต็มที่ เรียกว่า ไม่ต้องกลัว รถแหกโค้ง เข้าได้เต็มที่ รถอยู่แน่ แต่คนจะกระเด็นไปหรือ ปล่าวอยู่ที่ฝีมือ อิๆ
ที่ความเร็วสูง ระดับ 130-140 รถยังคงเกาะถนนนิ่ง ขับได้สบายไม่เครียด แต่กระแสลมที่พัดผ่านอาจจะทำให้ต้องเกร็งตัวและศรีษะช่วย เนื่องจาก Wind Shield ต่ำ ไม่พอที่จะป้องกันลม
เคยลองเอาคนซ้อนที่ความเร็วระดับ 160 ลมจะแรงมากต้องก้มตัวช่วย แต่คนซ้อนก็ยังบอกว่า พอไปได้สบายๆไม่เครียดมากเช่นกัน ถ้าไปที่ความเร็วปลายๆสุดแถวๆ 200 ตามที่เค้าเคลมไว้ ถึงตอนนั้นคงต้องหมอบกันบ้างล่ะ ไว้รอให้พ้นรันอิน เช็ค พันโลก่อน คงมีโอกาสทดสอบกันเต็มๆ อีกที
เบรค ABS ทั้งสามล้อ ที่มี EBD และ ABS ทำงานได้ดี หยุดได้ดังใจ เพียงแต่ทำความคุ้นเคยกับการใช้เบรคเท้าได้เต็มที่ซักนิด ต่างกับ มอร์เตอร์ไซค์เล็กน้อย
ไฟส่องสว่าง สว่างเหลือเฟือ ในเวลากลางคืน ทั้ง ไฟสูงและไฟต่ำ
อัตราการสิ้นเปลือง น้ำมันถังแรก ที่เติมเต็ม วิ่งทางไกล ยาวๆ ระดับความเร็วประมาณ 120-130 รวม สองร้อยกว่ากม.สลับ กับ ในเมืองบ้าง มันกินดุจริงๆ คือ กินราวๆ 11-12 โล/ลิตร พอๆกับ SLK ผมเลย นี่ยังนึกไม่ออก ว่าถ้าอัดเต็มๆ 170-200 ยาวๆ เต็มที่ของมัน น้ำมันหนึ่งถัง 25 ลิตร จะวิ่งได้ ซักกี่ โล เนี่ย :P
สรุป ถ้าคนที่ชอบการขับขี่ มอร์เตอร์ไซค์ เพื่อกินลม ด้วยความเร็วสูง ทั้งขี่เล่น และออกทริป แต่ต้องการความปลอดภัยอีกระดับ Spyder อาจจะเป็นคำตอบโจทย์ นั้น
น้ำหนักรถพร้อมใช้ 360 กก. และ ความสูง ที่เท้ายันพื้นไม่ถึงดี ไม่ได้เป็นอุปสรรค เหมือนกับมอร์เตอร์ไซค์ทั่วไป อีกต่อไป เพราะว่ามันทรงตัวได้ด้วยตัวเอง ระบบบังคับเลี้ยวที่มี Power ผ่อนแรงทำให้แม้แต่ผู้หยิงตัวเล็กๆ แรงน้อยก็บังคับ เจ้ายักษ์นี่ได้ไม่ยาก

มิติ ขนาด และ น้ำหนัก
ความสูงรถ............................................................................1,145 mm
ความยาวรถ...........................................................................2,667 mm
ความกว้างรถ.........................................................................1,506 mm
ความสูงของเบาะนั่งจากพื้น( Seat Height) ................................737 mm
ความสูงใต้ท้องรถ( Ground Clearance )...................................115 mm
น้ำหนักรถปล่าว ไม่รวมของเหลว ( Dry Weight )........................316 kg
น้ำหนักรถปล่าว พร้อมใช้ พร้อมน้ำมันเต็มถัง...............................363kg
น้ำหนักบรรทุกรวมคนขี่และซ้อน................................................200 kg
ความจุ ช่องเก็บของด้านหน้า...........................................................44 L
น้ำหนักสูงสุด ที่ช่องเก็บของด้านหน้ารับได้................................15.9 kg
ความจุถังน้ำมัน( Gassolene Octane 87 or more)..............................25 L
ปริมาณน้ำมันเครื่อง........................................................................4.5 L
เครื่องยนต์ Rotax V-Twin DOHC 4 v/cyl 106 hps
Displacement...............................60.90 in3 (998cc)

ล้อหน้า ขนาด 14" x 5" ยางขนาด 165/65 R14 / tyre pressure 13-17 psi ( 20 psi )
ล้อหลัง ขนาด15" x 7" ยางขนาด 225/50R15 /tyre pressure 26-30 psi ( 30 psi )


คู่มือการใช้งาน พร้อม CD แนะนำการขับขี่ปลอดภัย และ ฝึกซ้อม ตลอดจน Concept ของ SPyDER

อันนี้ ตัว Can-Am Spyder RT ฝากไว้ สำหรับคน ที่ชอบสไตล์ทัวริ่ง ทสบายๆ เบาะนั่งคนซ้อนนุ่มสบายพร้อมพนักพิง และลำโพง พร้อมกระจกบังลมหน้า ปรับเลื่อนสูงต่ำได้ด้วยไฟฟ้า พร้อมกระเป๋าสัมภาระ ด้านข้างอีกสองใบ
ดูคล้ายๆ Gold Wing หรือ HD Ultraglide ในภาคสามล้อเลย ราคา ก็ใกล้ๆกัน แถวๆ 2 M ใครสนใจเชิญ อิๆ

#####################################

SPECIFICATIONS: 2008 Can-Am Spyder Roadster SE5
Engine
Manufacturer................................BRP-Rotax
Type..............................................990 V-Twin
Displacement...............................60.90 in3 (998cc)
Bore..............................................3.82 in (97 mm)
Stroke...........................................2.68 in (68 mm)
Cylinder........................................2 ( V Twin )
Valves per cylinder.......................DOHC 4
Max output...................................106 hp @ 8500 rpm (79 kW @ 8500 rpm)
Max torque...................................77 lb-ft @ 6250 rpm (104.3 Nm @ 6250 rpm)
Compression ratio........................10.8:1
Ignition type.................................Electronic ignition with dual output coil
Lubrication....................................5W40 BRP synthetic oil
Exhaust system.............................2-into-1 with catalytic converter
Cooling.........................................Liquid cooled
Injection........................................Multi-point EFI with 57 mm diameter throttle bodies
Drive Train
Gear box......................................Sequential Electronic 5-Speed (SE5) with transmission-based reverse
Final drive.....................................28/79 ratio final drive with Carbon-reinforced drive belt
Clutch...........................................Wet, multi-plate, manual or electronic operation through a hydraulic piston
Electric Equipment
Magneto.......................................500 Watt
Starter...........................................Electric
Battery..........................................Dry Cell, 12V, 21 Amp
Geometry
Front suspension..........................Double A-Arm with anti-roll bar
Front suspension travel................5.67 in (144 mm) with adjustable cam
Rear suspension...........................Swing-arm with monoshock
Rear suspension travel.................5.71 in (145 mm) with adjustable cam
Chassis type.................................SST Spyder (Surrounding Spar Technology)
Steering........................................DPS (Dynamic Power Steering)
Tires & Wheels
Front tire.......................................KR21 165/65R14
Front nominal pressure................13-17 psi
Rear tire........................................KR21 225/50R15
Rear nominal pressure..................26-30 psi
Wheel size, front...........................Aluminum 14x5 (355x127)
Wheel size, rear............................Aluminum 15x7 (381x178)
Brakes

Type..........................................Foot-actuated, fully integrated hydraulic 3-wheel braking system
Front braking system................4 piston calipers with 260 mm x 6 mm discs
Rear braking system.................Single-piston caliper with 260 mm x 6 mmdisc
EBD..........................................Electronic Brake Distribution
ABS...........................................Anti-lock Braking System
Parking brake...........................Mechanical, foot actuated to the rear caliper
Safety & Security
VSS...........................................Vehicle Stability System
ABS...........................................Anti-lock Braking System
TCS...........................................Traction Control System
SCS...........................................Stability Control System with Roll-Over Mitigation
DPS...........................................Dynamic Power Steering
DESS.........................................Digitally Encoded Security System
Vehicle Dimensions & Weights
Dry vehicle weight....................316 kg
Front storage capacity.............44 L
Front max load capacity...........15.9 kg
Total vehicle load allowed........200 kg
Fuel capacity............................25 L
Oil capacity..............................4.5 L
Coolant capacity......................3.2 L
Ground clearance.....................115 mm
Vehicle overall height...............1,145 mm
Vehicle overall length...............2,667 mm
Vehicle overall width................1,506 mm
Seat (top) height......................737 mm
Wheel base..............................1,727 mm
Wheel track, front.....................1,308 mm
Type of gas...............................Unleaded, 87 octane minimum
Features & Main Options
Instrumentation........................Dual analog and LCD w/speedometer, tachometer, electric fuel gauge,
daily trip (A & B) meters, engine temperature, ambient temperature and gear position indicator. Information displayed in either metric or US Standards
Warranty...................................2 years

ภาคผนวก คลิปวีดีโอ บน You Tube Record ด้วย GoPro Hero กล้องติดรถ Motor Sport ทั้งพวก Racing Car และ Racing Bike

คลิป บันทึก จากกล้อง ที่ติดบนHandle Bar ถ่ายด้วยโหมด Wide Angle with HD
คลิปบันทึกจากกล้องที่ติดตังบนหมวกกันน้อค
คลิปสั้นๆ 30 วินาที กับอัตราเร่งที่ไต่ไปที่ ความเร็วปลาย 170 กว่าๆ(มีคนซ้อนท้ายหนึ่งคน ) แต่คอนโทรลได้สบายๆ
อันนี้แถมคลิปยาวๆ กล้องติดตั้งบนหมวก บันทึกภาพ จากฮายาบูสะที่ความเร็วกว่า 240 กล้องที่ติดยึดกับหมวกยังทำงานบันทึกภาพได้ดี แม้โต้ลมแรง

Back To -=Jfk=- Super Bike Experience
Back to Jfk Car Experience
www.2jfk.com
มีข้อแนะนำ หรือ ข้อมูลเพิ่มเติมแนะนำได้ครับ
jfk@2jfk.com