-=Jfk=- Car Experience

Mercedes Benz SLK 200K

คันนี้เริ่มอยากได้เมื่อ ตอนที่ เห็น MB เปิดตัว เจ้า R230 หรือ SL500 ใหม่ออกมาเมื่อประมาณปี 02-03 ด้วยรูปทรงที่หล่อเฉี่ยวเร้าใจมากๆ แต่ตอนนั้นราคาที่ วางออกมา 14 ล้านเศษนิดๆ มันหนักเกินไป เลยได้แต่ฝัน แค่นั้น
และ ในปี 04 เมื่อ MB ได้นำ R171 เจ้าหล่อเล็กหรือ SLK ใหม่ตัวนี้ ออกมาด้วยรูปทรงเหมือนกับ ย่อส่วนเจ้าหล่อใหญ่ R230 SL Klass ออกมาเลย ด้วย ราคาที่ ต่ำกว่าที่หลายคนคิดไว้ในใจกันพอสมควรทีเดียว แต่คิวจอง หนึ่งปี กว่าจะส่งมอบ ทำให้ไม่ได้ตัดสินใจจอง
แต่เมื่อต้นปี 05 หลังภาษีลด ทางDaimler ได้ปรับราคาตั้งรุ่นนี้ลงจากราคาจอง อีกหนึ่งแสนบาท แต่ว่า หลายดีลเลอร์ ยังคงขายบวกจากราคาตั้งอีกประมาณ หนึ่งแสนเนื่องจากคิวส่งมอบค่อนข้างยาว แต่ทางดีลเลอร์ที่บ้านที่เคยเป็นลูกค้าประจำ ได้จองไว้ และมีสีที่ชอบพอดี กำหนดรับรถได้แล้ว ติดต่อมาว่า ถ้าสนใจให้ ราคา Price list ก็เลย คิดว่าถึงเวลาที่จะสานฝันให้รางวัลกับตัวเองที่ ทำงานหนักมาด้วยของเล่น ชิ้นนี้ได้แล้ว

เครื่องยนต์ ตัวนี้เป็น SLK 200 เครื่อง 1.8 Kompresser เป็นเครื่องยนต์ขนาดเล็กสุด ของ Series นี้ ใช้ Supercharger ช่วยอัดอากาศทำให้ได้กำลังเครื่องยนต์รีดออกมาได้ทุกรอบการใช้งานไม่ต้องรอรอบเหมือนเครื่องเทอร์โบ ให้กำลังม้าสูงสุด 163 แรงม้า หลายคนบอกว่า อืดไปหน่อย สำหรับรถSport อย่าง SLK
แต่ในการใช้งานจริง แม้ผมจะเป็นคนที่ขับรถไวพอสมควร ก็ยอมรับว่า แม้เครื่องจะไม่ได้แรงมากมาย แต่ว่า แรงม้าขนาดนี้ กับรถเล็ก น้ำหนักตัวแค่ 1.4 ตัน ขนาดนี้ ถือว่าขับได้สนุกและ อัตราเร่งดีทีเดียว ไม่อืดอย่างที่คิด กดคันเร่ง เรียกรอบมาได้ทันที แทบจะไม่ต้องใช้กลไกเปลี่ยนเกียร์ ที่พวงมาลัย ที่มีเลือกให้ใช้ได้ถ้าต้องการ (กลไกเกียร์คันนี้ เป็นเกียร์อัตโนมัติ ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเกียร์แมนนวล หรือ ใช้ แบบทริปทรอนิค พร้อมเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยได้เหมือนกับรถ F 1 )
เสียงเครื่องยนต์ ที่รีดผ่านปลายท่อไอเสียทรงสปอร์ต สองท่อด้านท้าย เป็นจุดเด่นอีกอันนึงของรถคันนี้ ให้เสียงนุ่มทุ้มเพราะมากเวลากดคันเร่ง เร้าใจพอควร แต่ไม่ดังจนน่ารำคาญ
การทรงตัว ในความเร็วสูง ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี สำหรับรถเล็กขนาดนี้ อาจจะเป็นจากยางหน้ากว้างซีรีย์ต่ำ ( หน้า 225/45-หลัง 245/40 ) กับล้อ 17 นิ้วที่ติดมากับรถ ช่วยให้ การเกาะถนนดีใช้ได้ ขับได้สบายๆ ในระดับความเร็วสำหรับการเดินทาง 180 เมื่อถนนโล่งๆ แต่ที่ความเร็วระดับเกิน 200 อาจจะรู้สึกเครียดเล็กน้อย ความเร็วปลาย สูงสุดทำได้ แถวๆ 220
เสียงในห้องโดยสารแม้จะไม่เงียบเท่ากับรถ ซีดานชั้นดี แต่ว่า ถือว่าใช้ได้สำหรับ Roadster เปิดหลังคาได้ ซึ่งมักมีปัญหาเรื่องเสียง รบกวนที่รอดเข้ามา ทำให้เครื่องเสียงที่ติดมากับตัวรถ ทำงานได้ เต็มที่ เรียกว่า ชุดStandard ติดรถนี่ ให้ความพอใจ แบบไม่ต้องคิดเปลี่ยนกันเลย อ้อรวมทั้งเรื่องฝนรั่วซึม(อันนี้ ผ่านมาหนึ่งฝน แล้ว ยังไม่เคยเจอปัญหาน้ำรั่ว ครับ อิๆ)
แต่ถ้าเปิดหลังคาเมื่อไร ความเร็วเกิน 140 ตอนนั้นแหละเสียงลมที่พัดผ่านศรีษะ ดังกระหึ่มเร้าใจ เลิกคิดเรื่องฟังเครื่องเสียงได้เลย และถ้าแถวๆ 200 ถึงตอนนั้น คุยกันไม่รู้เรื่องแล้ว (แต่ก็คงไม่มีใครอยากคุยกันในบรรยากาศ อย่างนั้นนอกจากดื่มด่ำกับ ความมันส์ของมันอย่างเดียว
ไฟหน้า Bi Xenon พร้อมระบบช่วยเพิ่มการส่องสว่างเวลาเลี้ยวเข้าโค้ง ส่องสว่างได้ดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆ (จนอาจจะต้องขอโทษเพื่อนร่วมทาง ที่ขับอยู่ด้านหน้า (แต่ปกติก็ไม่ขับตามหลังใครนานนัก :) อยู่แล้วอ่ะ
ระบบอำนวยความสะดวก ในรถมีให้ค่อนข้างครบ ตั้งแต่ ระบบCruise Control ระบบล้อคความเร็วสูงสุด พวงมาลัย Multifunction ระบบเตือนลมยางรั่ว หรืออ่อนกว่าปกติ รวมไปทั้งการปรับพวงมาลัยด้วยไฟฟ้า การปรับเบาะและพวงมาลัย เลื่อนเข้าออก เวลาลงรถ ระบบการปรับกระจกส่องหลังเวลาถอย ระบบการเปิดปิดไฟ ทั้งไฟหน้าและห้องโดยสาร ระบบการล้อครถ อัตโนมัติ และป้องกันขโมย และ อื่นๆ ที่มีให้มาพร้อม และเลือกปรับใช้งานได้ตามความต้องการของเรา (เรียกว่านึกถึงอะไรมีให้เกือบหมดมั้ง :P )
ระบบความปลอดภัย
ระบบเบรค
มี ABS ( Anti Lock Brake System =ระบบป้องกันล้อล้อคตายเมื่อเบรคกระทันหัน ) และ BAS (Brake Assist System ระบบช่วยเพิ่มแรงดันเบรคอัตโนมัติเมื่อเบรคกระทันหัน) ซึ่งทั้งสองระบบ ทำงานร่วมกันเพื่อช่วยให้การเบรคมีประสิทธิภาพสูง และไม่เสียการควบคุรถ สำหรับชุดเบรค ใช้ Disc Brake หน้าเป็นแบบสองชั้นพร้อมครีบระบายความร้อน ด้านหลังเป็น Disc Brake ธรรมดา ทำงานได้ดี แม้จะใช้ความเร็วสูง แล้วดึงลงมาอย่างเร็ว ยกเว้น ถ้าเบรคแรงๆ ติดต่อกัน หลายๆ ครั้งจริงๆ จะรู้สึกถึงการ Fade เบรคลื่นขึ้นนิดหน่อย จากความร้อนของผ้าเบรคได้ (ทำให้เริ่มเกิดไอเดีย ว่าจะเปลี่ยน Brembo มาใส่คันนี้ แล้วเอาเบรคคันนี้ย้ายไป ใส่ เจ้า Fortunner ตัวที่มีปัญหาเรื่องเบรคดีมั้ย เพราะว่าตัวนั้น จะเอา Brembo ลงทั้งชุด ค่าเบรค กับช่วงล่างที่ต้องเซ็ทใหม่ กินไปครึ่งนึงของราคารถ ทำใจยาก แต่ถ้าสลับกันกับคันนี้ ค่อยน่าคิดแฮะ :) )
ระบบป้องกันการลื่นไถลอัตโนมัติ(ESP) ช่วยป้องกันล้อหมุนฟรี บนถนนที่ลื่น เปียกหรือมีกรวดทราย (โดยการตัดการส่งกำลังไปยังล้อที่กำลังจะหมุนฟรีนั้นให้ลดลง) รวมทั้งป้องกันการเสียการทรงตัวเวลาเค้าโค้งรุนแรง
เบาะนั่ง อาจจะดูเหมือนเป็นจุดเดียว ของรถคันนี้ที่ผมเองไม่ค่อยชอบนัก เบาะหนังแท้สปอร์ต แบบ Bucket Seat โอบรับตัวสวยดี ปรับด้วยไฟฟ้าทั้งสองด้าน แต่มันไม่มีส่วนปรับ Lumbar Support หนุนเอว และส่วนรองศรีษะปรับเข้าออกไม่ได้ ทำให้ เวลาขับนานๆ หลายชั่วโมงเมื่อยเล็กน้อย สำหรับรถสปอร์ต อยากได้เบาะที่มันนั่งแล้ว ปรับให้เข้ากับตัวเราได้มากกว่านี้ แต่สำหรับคนตัวโตตัวเล็ก ที่ห่วงว่าจะนั่งจมเกินไปหรือ ศรีษะติดเพดานหรือไม่ ไม่ต้องห่วงปรับเบาะได้เหลือเฟือ แต่ถ้าบ่นว่า มันมีแค่สองที่นั่ง อย่างนั้น ก็ต้องไล่ให้ไปซื้อ Sedan อื่นๆ หรือ CLK แทนแล้วล่ะ :P

ระบบ Vario roof หรือ การเปิดปิดหลังคา แข็ง เป็นจุดเด่น ของรถรุ่นนี้ ซึ่งหลายคนคิดเหมือนกันว่า มัน Practical กว่า หลังคาอ่อนแบบผ้าใบ ซึ่งเวลาปิดแล้วเสียงดัง หรือ แม้แต่หลังคาแข็งชนิดที่ต้องยกมาใส่ แบบ SL ตัวเก่า หรือ MX 5 ตัวเก่า แต่ตัวนี้ อยากเปิดอยากปิดเมื่อไร แค่กดปุ่มหรือยิงรีโมท เปิดปิดได้ในเวลา แค่ ยี่สิบกว่าวินาทีเท่านั้น :)
อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง คนใช้รถระดับนี้ส่วนใหญ่มักไม่ค่อย สนใจเรื่องอัตราการสิ้นเปลืองเท่าไร แต่ที่นี่แปลกคือรถตัวนี้ที่สมรรถนะสูงใช้ได้ กับมึอัตราสิ้นเปลืองที่ต่ำ อย่างน่าแปลกใจ ถ้าความเร็วคงที่ บนไฮเวย์ ประมาณ 100 กม./ชม.จะใช้ ประมาณ 12-13 โลลิตร และที่ระดับความเร็วเกิน 160 จะกินประมาณ 9 กม./ ลิตร ซึ่งถือว่าไม่มากนัก
สรุป สำหรับ Roadster ขนาดเล็ก ตัวนี้ หลายคนคงยอมรับเรื่องการออกแบบที่ลงตัว เครื่องยนต์ขับสนุกพอใช้ แม้จะไม่ได้แรงมากเหมือนสปอร์ตพันธ์แท้ แต่ว่ารถสวยๆแบบนี้ ก็เหมาะที่จะใช้ขับเล่น ไม่เร็วมาก หรือเปิดหลังคากินลม ตามเขาหรือทะเล ในวันอากาศดี มากกว่า ขับเร็วอยู่แล้ว ขืนขับเร็ว เด๋วคนอื่นชื่นชมรถเราไม่ทันกันพอดี :P
สำหรับผมเอง คันนี้ ถ้าเอาเรื่องความคุ้มค่าของเงินกับการใช้งาน มันไม่คุ้มแน่ แต่ถ้าถามถึงความสุขที่ได้รับจากมัน โอเค เหมือนกับการให้รางวัลกับชีวิตตัวเองไง จริงๆแล้ว ผมว่า ถ้าเราทำงานมาให้กับ สังคม ครอบครัว และคนรอบข้างมากพอแล้ว อย่าลืมให้รางวัลกับชีวิต ตัวเองมั่งนะ :)

ปัจจุบัน คันนี้ ไม่อยู่แล้ว ถูกจับไปแปลงใหม่ หลังจาก มิดเป็น R171 BRABUS Design แล้ว :P

Visit Jfk Car Gallery

www.2jfk.com

มีข้อแนะนำ หรือ ข้อมูลเพิ่มเติมแนะนำได้ครับ

jfk@2jfk.com