Seiko Flightmaster
Flightmaster
นาฬิกาสายเลือดญี่ปุ่นราคาสวิสต์
ตัวนี้มาในกล่องบุหนังเทียมสีเทาเงิน
พิมพ์ Prospex
ที่ฝากล่องบอกให้รู้ว่าเป็นนาฬิกาใน
Line ระดับบน
ประมาณว่าเป็น Masterpiece
ของ Seiko เค้าล่ะ
แต่คุณภาพกล่องไม่ดีเท่าไรไม่สมกับระดับราคา
ของนาฬิกาเท่าไร
กล่องด้านในบุกำมะหยี่สีเทา
รับกับกล่องตัวนอก
ตัดด้วยสีเหลืองสดใส
คุณภาพ
ก็พอๆกับกล่องนอก
คือไม่เจ๋ง
Flightmaster
ตัวนี้เป็นนาฬิกาญี่ปุ่นเรือนแรกที่เก็บเข้ามาอยู่ในกรุ
ที่ซื้อตัวนี้กเพราะว่า
แรงเชียร์ ของอจ.Tommy
แท้ๆ ที่บอกว่าตัวนี้คือสุดยอด
Seiko และเห็น คุณ Reto
เซียน Seiko
เค้าก็มีเก็บไว้
ก็เลยตามแห่ไปเอามาไว้กับเค้ามั่ง
หน้าปัดค่อนข้างมีฟังชั่นเยอะทำให้ดูรก
แต่ก็สวยงามดี
มองได้ง่าย มี Subdial
สามวงที่ 12 และ
โดยที่ 9 น.เป็น Subdial Second
ใช้เข็มสีขาวเหมือนเข็าสั้นและยาวปกติ
แต่เข็มชุดจับเวลาทั้งหมด
ที่ 12 และ 6 น.ตลอดจนเข็มจับเวลาวินาที
ที่อยู่ตรงกลางรวมกับเข็มชม.และเข็มนาทีเป็นสีเหลือง
สดใสอ่านได้ง่าย
มีหน้าต่างรูปพัดที่
2 น.พร้อมเข็มบอกพลังงานสำรองเต็มที่
48 วัน
ขอบหน้าปัด(Bazel)
หมุนได้สองทาง
บอกเวลา 60 นาที
ใช้เพื่อตั้งจับเวลาทำกิจกรรมบางอย่าง
เช่นการดำน้ำ และมี
ทิศทั้งสี่กำกับไว้พร้อมกับตัวเลข
แบ่งเป็น 360 องศา
เพื่อใช้ประโยชน์เป็นเข็มทิศ
บอกทิศทางได้คร่าวๆสำหรับขาลุยป่าทั้งหลาย
ตัวเรือน Flightmaster
เรือนนี้ค่อนข้างใหญ่
Diameter ตัวเรือน 45มม Diameter
ส่วน Bazel =41 มม. และ Diameter
ของกระจกหน้าปัด = 32
มม. ความหนา 14.6 มม.
ตัวนี้เรือนและสายเป็น
Titanium สีเทาอมทอง
ขนาดโตพอสมควร
แต่น้ำหนักไม่มากเกินไปนักเนื่องจากความเบาของโลหะ
Titanium
หลังเปลือยมองเห็นเครื่องผ่าน
Seethrough Sapphire
ให้เห็นเครื่องที่
Finished ได้สวยพอใช้
แม้จะไม่เท่ากับนาฬิกาสวิสต์ชั้นสูงระดับที่ได้
Geneva Seal
แต่ก็ไม่แพ้นาฬิกาสวิสต์ทั่วๆไป
และเนื่องจากฟังชั่นค่อนข้างมาก
จึงมีการใช้ทับทิมสังเคราะห์รองรับแกนหมุนถึง
40 Jewels
ความถี่ของเครื่อง
28,800 bph
ปุ่มกดจับเวลาทั้งสองนุ่มมือใช้งานง่าย
อันเป็นผลมาจากการใช้กลไก
Chronograph แบบ Column Wheel
เหมือนนาฬิกาจับเวลาสวิสต์ชั้นดีหลายยี่ห้อ
เม็ดมะยมเป็น Screw in
ไขเกลียวทำให้กันน้ำได้ลึก
100 เมตร
และปุ่มจับเวลาทั้งสอง
ก็มีเกลียวขันล้อค
เช่นเดียวกับ Rolex Daytona Cosmograph แต่ทำงานกลับตรงกันข้าม
คือของ
ตัวนี้ถ้าคลายปุ่มล้อคออกมาจนสุด
ให้ปุ่มกดจมไปในตัวล้อค
นั่นคือการล้อคไม่ให้ปุ่มนี้ถูกกดลงโดยบังเอิญขณะจับเวลา
กลไกการเข้าลานเป็นแบบ
Bidirectional Winding
เข้าลานได้ทั้งสองทาง
ไม่ว่าจะหมุนจากทางใด
ตัวนี้เข้าลานได้ดีมาก
ทำให้เห็นพลังงานสำรองขึ้นเต็มสเกล
48 ชม.เกือบตลอดเวลา
แต่เพื่อความเที่ยงตรงของนาฬิกา
จึงมีการ Set ว่า
ถ้าพลังงานสำรองเหลือน้อยกว่า
10 ชม.กลไกจับเวลาจะไม่ทำงาน
แต่เวลายังคงเดินต่อไปอย่างเที่ยงตรง
ซึ่งจากการทดสอบการใช้งานพบว่าความเที่ยงตรงสูงมากน้อยกว่า
2 วินาทีต่อวัน
ดีกว่า มาตรฐาน Chronometer
ซะอีก
ด้านข้างค่อนข้างหนา
เม็ดมะยมแกะตัว
อักษร S
แทนสํญญลักษณ์ ชื่อ
Seiko
ปุ่มจับเวลามีเกลียวขันกันการกดโดนปุ่มขณะทำงาน
สายไททาเนี่ยมขัดด้านสลับมัน
ประกอบด้วยโลหะตันชิ้นเล็กๆ
ปราณีตเรียบร้อยเนียนลื่นมือ
ขณะใช้งานดูดีมีระดับ
บานพับ
พร้อมปุ่มกดปลดล้อคสองด้าน
และตัวล้อคนิรภัยประทับตรา
Seiko ล้อคซ้ำอีกชั้น
สังเกตุตัวล้อคนิรภัยนี้
ใช้ลูกปืนสปริงที่ริมบานพับเป็นตัวล้อคกับรูเล็กๆ
ของตัวล้อคนิรภัยทำให้ล้อคได้ดี
และไม่เป็นรอยง่าย
ขนาดนาฬิกาเมื่อใส่บนข้อมือ
ที่ค่อนข้างเล็กของผมจะดูค่อนข้างใหญ่แต่ไม่หนักมาก
ถ้าวัยรุ่นหน่อยก็คงชอบหน้าตา
ที่มีฟังชั่นมากมายของมันล่ะ
ขนาดวัยรุ่นตอนปลายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
อย่างผมยังชอบเลย :)
สรุปว่า
ถ้าใครอยากได้
นาฬิกาตัวลุยๆ
สวยพอสมควร
ไม่เกี่ยงว่าไม่ใช่นาฬิกาสวิสต์
ตัวนี้ก็เป็นอีกทางเลือกที่แปลก
แต่ราคาเกือบแสนที่แพงกว่า
นาฬิกาสวิสต์หลายตัว
อาจจะทำให้ต้องคิดนานขึ้นอีกนิดนะครับ
สำหรับ Seiko Top Of The line
ตัวนี้
