Seamaster Pro.300 (Ref. 2054.50.)
Movement: Omega 1120 C.O.S.C.(Base
Caliber ETA2892A2 )
Seamaster Pro 300 Chronometer
ตัวนี้เป็นโอเมก้าตัวแรก
ที่เลือก
มาเก็บไว้ใน Collection
หลังจากอ่าน Review
เปรียบเทียบกับ Rolex
Submariner แล้วถูกใจ
ที่นักวิจารณ์
หลายคนให้มันชนะในด้านความคุ้มค่ากว่า
แถมตั้งฉายาให้มันว่า
" Poor Man Submariner "
ตัวนี้มาในกล่องหนังสีแดง
โลโก้โอเมก้าสีทอง
ตามStyle Omega
พร้อมซองหนังใส่ใบรับประกันสีเดียวกัน
กล่องภายในบุผ้าสักกะหลาดสี
ครีม
พร้อมหมอนสีเดียวกัน
Seamaster Pro 300 Chronometer
นาฬิกา ใน Line
ดำน้ำของ Omega ที่
โด่งดังมาจากหนังเจมส์บอนด์
จนหลายคนเรียกว่า Bond
Watch แต่ผมเองเลือก Model
นี้ซึ่ง
เป็นหน้าดำเข็มทรงดาบ
ซึ่งออกมาใหม่กว่า
ตัว Bond's Watch
ซึ่งเป็นหน้าสีน้ำเงินน้าทะเล
และเข็มทรงโปร่ง(
Skeleton)
เนื่องจากชอบหน้าตาของ
ตัวนี้มากกว่า และ
เลือกตัวนี้มา
แทนที่จะเลือก Seamaster GMT
ก็เนื่องจากชอบความแปลกของ
ปุ่ม Helium Escape Valve ที่
10 น. ในขณะที่เบื่อ
กลไก GMT
ที่มีอยู่แล้วหลายเรือน
ตัวนี้
ตัวเรือนและสายเป็น
Stainless Steel ขัดด้าน(Satin Finished)
ขนาด Diameter ตัวเรือน 41
มม. และ Diameter ของ
กระจกหน้าปัด 30 มม.
เท่าๆกับนาฬิกาสปอร์ตของโรเล็กซ์
แต่
บางกว่าเพราะว่าหนาเพียงแค่
12 mm.หน้าปัดพื้นสีดำมีลายคลื่นดูสวยดี
แต่บางครั้งมุมสะท้อนแสงก็ทำให้เห็นกระจกหน้าปัด
ดูสะท้อนแสงมองเห็นคล้ายกับกระจกหน้าปัดเป็นฝ้า
รำคาญตานิดๆ
ขอบBazel หมุนทางเดียว
ตามลักษณะของนาฬิกาดำน้ำทั่วไป
เคลือบสีดตัดกับ Marker
สีขาว
ดูง่ายสะบายตา
และจากการใช้งานที่ผ่านมาพบว่าทนทานต่อการลอกได้ดีที่เดียว
(ปีกว่ายังไม่มีรอยลอกหรือถลอกให้เห็น)
เครื่องที่ใช้เป็นเครื่อง
ETA 2892A2 เครื่องยอดนิยม
ราคาประหยัดแต่คุณภาพคับแก้วที่ใช้กันในนาฬิกาดังๆมากรุ่นเกือบที่สุด
ให้พลังงานสำรอง 42
ชม.
แต่ว่ากันว่าเป็นตัว
2892A2
ที่ปรับแต่งได้ดีเยี่ยม
และความเที่ยงตรงที่เชื่อถือได้เนื่องจากผ่านการทดสอบ
ความเที่ยงตรงระดับChronometer
จาก COSC ด้วย
พรายน้ำ Luminova
ที่แต้มบน Marker และ
เข็ม
ตลอดจนปลายเข็มวินาที
สว่างดี
มองเห็นได้ชัดในที่มืดขนาดภาพนี้ถ่ายในที่ไม่มืดนักยังสว่างใช้ได้เลย
:)
ฝาหลังด้านนอกเป็นลายคลื่นและม้าน้ำของโอเมก้า
พร้อมสลัก ชื่อรุ่น
Seamaster
เป็นแบบขันเกลียวอัดแน่น
พร้อมกับเม็ดมะยมขันเกลียวทำให้สามารถกันน้ำลึกได้ถึง300
เมตร หรือประมาณ 1000 Ft
ซึ่งเหลือเฟือสำหรับการใช้งานลุยทุกรูปแบบ
แม้แต่การดำน้ำลึก
ขณะเดียวกันฝาด้านในก็มีการติดตั้ง
Soft Iron
ป้องกันคลื่นแม่เหล็กรบกวนการทำงานของ
กลไกเครื่อง
อีกต่างหาก
ด้านข้างจะเห็นว่าไม่ค่อยหนามากนัก
ตัวเรือนด้านที่มีเม็ดมะยมตัวเรือนยกสูงเป็น
บ่าป้องกันเม็ดมะยม
(Crown Protector)ส่วนด้าน Helium
Escape Valve ไม่ได้ทำ
บ่าคลุมไว้
แต่เป็นแบบขันเกลียวเช่นกัน
สายเหล็กที่ให้มาคล้ายกับ
สายOyster ของ Rolex
ดูหนาแน่น
สวยงามใช้ได้เลยทีเดียว
ส่วนชิ้นกลางที่คล้ายกับการขัดมันสองด้านบางๆที่ขอบนั้นเป็นชิ้นโลหะแยกต่างหากนำมาประกับกัน
ส่วนของบานพับ มี Extend
Folder ไว้สำหรับสวมทับกับ
ชุดดำน้ำ ได้สะดวก
พร้อมกับปุ่มล้อคสองด้านกันการหลุดโดยไม่ตั้งใจ
สรุป
เมื่อเทียบกับราคาค่าตัว
ประมาณ 50 K และ Function
ต่างๆที่ได้มา
คิดว่าเหมาะสมแล้วกับฉายา
Poor Man Submariner แต่เสียดาย
ถ้าไม่ส่งทดสอบ
Chronometer
ให้เปลืองค่าทดสอบอีก200
$ หรือ ประมาณ9 พันบาท
จะทำให้ราคามันต่ำลงมาได้อีกเกือบหมื่น
คงน่าสนใจเพิ่มกว่านี้เยอะ
เนอะ :)
แต่ถ้าอยากให้สนุกกว่านี้อีกหน่อย
ได้เล่นกลไก Chronograph
ของ Federique Piguet
เหมือนตัว Broad Arrow
ล่ะก้อ
เพิ่มงบประมาณ 30 K
แล้วไปเล่น Seamaster Chrono American Cup ตัวนี้ได้เลยครับ
เรือนนี้
ปัจจุบันย้ายไปอยู่กับ
อาจารย์ Tommy
เรียบร้อยรร.เชียงใหม่แล้ว
:)