RXW Plasmir Milgraph (Bi Compax)
Movement RXW
calibre VS1962
RXW นาฬิกา
ที่เป็นชื่อย่อมาจากRockeXcelWatch
Company ของKen Sato
นักสะสมนาฬิกาสปอร์ตชาวอาทิตย์อุทัย
ที่ผันตัวเองมาเป็น
ผู้ผลิตนาฬิกา
ชื่อดังในปัจจุบัน
ด้วย Slogan ของนาฬิกา
ROCKX SOLID หรือ solider than
rock หรือ
แข็งกว่าหิน
นั่นเอง
ตอกย้ำคอนเซ้ปของ
Brand
ที่เน้นความทนทานแข็งแรงของนาฬิกา
Ken Sato
เริ่มผลิตนาฬิกา
ออกมาโดยใช้เครื่องนาฬิกาสวิสต์
และ Copy
รูปแบบนาฬิกาแบรนด์ดัง
คือ Officine Panerai โดยเฉพาะรุ่นที่สร้างชื่อให้กับ
RXW มากก็คือ MM20 Marina Militare
ที่ Copy pam marina militare ของ Pam
มา ทั้งรูปร่าง
หน้าตา ตลอดจน Crown Guard
ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของ
PAM นั้นด้วย
จนเกิดการฟ้องร้องและ
ทาง RXW แพ้คดี ต้องระงับการผลิตนาฬิการุ่นดังกล่าง
แต่ ผลก็คือ
ทำให้ชื่อเสียง ของ
RXW
เป็นที่รู้จักของนักเล่นนาฬิกา
อย่างรวดเร็ว และ
นาฬิกา
รุ่นดังกล่าวมือสอง
ราคาวิ่งสูงกว่า
ของใหม่เมื่อตอนออกขายซะอีก
:P
หลังจากแพ้คดี RXW
หันมาทำนาฬิกา
ที่ดีไซน์เป็นของตัวเอง
อย่าง Plasmir Milgraph
เรือนนี้
แต่ถ้าดูแล้ว
ต้องยอมรับว่า
น่าจะเจตนา
หรือมีแรงดลใจในด้านการออกแบบตัวเรือน
และแม้แต่ชื่อ
มาจาก Radiomir
ของคู่คดีความเก่า
คือ Officine Panerai อยู่ดี
แม้จะไม่เหมือนมากจนทำให้ถูกฟ้องร้องได้
แต่ก็พอรู้สึกได้ไม่ยาก
:P
และ เช่นเดิม
รุ่นนี้
ก็ยังได้รับความนิยม
จากนักสะสมเช่นกัน
ราคาขาย ที่เว็บ ของ
RXW เมื่อตอนเปิดตัว
ในประมาณ ปี 2005 คือ 880เหรียญ(หรือ
360000 บาท)
และถูกกว้านซื้อหมดไปโดยนักสะสม
อย่างรวดเร็ว
ส่วนราคามือสองปัจจุบันนี่
เค้าโม้ว่าเล่นกันถึง
2000 $ หรือ
แปดหมื่นกว่าบาทไทย
ไปแล้ว
แต่ที่เห็นจากการประมูลล่าสุดใน
EBAY เมื่อเดือนมีนา 2006
ผู้ชนะการประมูลได้ไปในราคา
1225$ ไม่รวมค่าส่ง
ส่วนรุ่นใหม่
ที่จะออกมา
เค้าเปิดให้จองแล้ว
คาดว่าจะออกมาวางตลาด
หลัง มิย. 2006
ใครอยากได้
เข้าไปติดตามในเว็บเค้าดูครับ
:)
เรือนนี้ได้มือสองสภาพ
LNIB มาจากน้องใน
สยามนาฬิกา เช่นกัน
กล่องนอกเป็นกล่องกระดาษ
สีดำ(เหมือน Pam
อีกแล้ว :P )
กล่องใน
ขนาดเล็กกว่า
กล่องของ PAM แต่สวย
ครับ ไม้
เห็นเค้าว่าเป็น
Affirican Zebra Wood
คงเรียกตามสีเนื้อไม้ที่ลายเหมือนม้าลายนั่นแหละ
แต่สวยจริงๆ :)
เปิดฝาดูกล่อง
ด้านในกรุกำมะหยี่สีน้ำตาล
ดูเก่าๆ
ใบรับประกัน
มีแค่นั้นแหละ
คู่มือไม่มี
ส่วนแผ่นเหล็กสองอันนั่น
ด้านซ้ายเป็นฝาStainless
Steel ขันเกลียวแบบทึบ
โดยมีแผ่น Soft Iron
อันขวาใช้ใส่ซ้อนเข้าไปเพื่อช่วยป้องกันแรงสนามแม่เหล็กได้สูงถึง
1000 Gauss แต่
สำหรับทั่วๆไป แล้ว
ฝาหลังใส
ที่มีมาให้ด้วย
น่าจะเหมาะที่จะเอาไว้ดูเครื่องสวยๆ
ครับ :)
ตัวเรือนทรงเหลี่ยมโค้งมน
คล้าย Radiomir ขัดเงาผสม
ขัดด้าน (Satin Fisished)
ทำจากStainles Steel Grade สูง 316L
เหมือนกับนาฬิกาสวิสต์ชั้นดี
ขนาดตัวเรือน Diameter 41
มม. ถ้ารวม Crown 45 มม. Diameter
ของกระจกหน้าปัด34
ความหนา 15 มม.หูสาย 22
มม.เม็ดมะยมเป็นแบบขันเกลียวอัดแน่น(Screw
in Crown )
รวมทั้งปุ่มกดจับเวลาก็เป็นแบบมีบ่าล้อคขันเกลียว(เหมือน
ของ Rolex
Daytona)
Lay Out
ของหน้าปัดนอกจาก
เข็มจับเวลา วินาที
ที่อยู่ตรงกลาวร่วมกับ
เข็มชม. และ นาที
แล้ว ก็มี Subdial ที่ 9 น.เป็นเข็มวินาที
รูปใบไม้(เหมือน Pam
อีกแล้ว :P) ส่วน Subdial
ที่ 3 น.เป็นวงจับเวลา
บอกเวลา ได้ 30 นาที
เรือนนี้
ถ้าสังเกตุดีๆ
จะเห็นมี Tachymetric
Scale อยู่ที่ขอบหน้าปัดด้วย
แต่วางตำแหน่งตามแนวตั้งตามความลึกของนาฬิกา
ทำให้มองเห็นไม่ชัด
ใครรู้จัก Ken Sato
บอกให้เปลี่ยนทำเป็น
Slope ซะหน่อย
จะได้เห็นได้ชัด
น่าจะสวยและ Work กว่า
นี้ อ่ะ
หน้าปัดเป็น Sandwich
เหมือนกับ นาฬิกา
ของ Paneari หลายรุ่น
รวมทั้ง Pam 183 ด้านนอกเป็นแผ่นสีดำด้านเจาะช่องฉลุ
ตามตำแหน่ง ตัวเลข
และMarker บอกเวลา
ส่วนชั้นในเคลือบสารเรืองแสง
Liminova
ไว้ให้ความสว่างในที่มืด
สำหรับระบบพรายน้ำของเรือนนี้
แก้ปัญหาเรื่องการหมดพลังงานของ
Luminova
เมื่ออยู่ในที่มืดนานๆ
หลายชั่วโมง โดยที่เข็มชม.
และนาที มีการ ฝัง US
Army official 3H Gas light Capsule
ที่บรรจุสารกำมันตรังสี
Titium (ที่คำนวนแล้วว่าใช้ได้โดยปลอดภัย)
ซึ่งไม่ต้องอาศัยการสะสมพลังงานจากแสง
ก่อนเข้าที่มืด
และหมดไปเร็วในไม่กี่ชม.เหมือน
Luminova อื่นๆ
แต่มันจะเรืองแสงในที่มืดได้ตลอดเวลา
ตลอดไป (จะว่าตลอดไป
ก็ไม่เชิง เพราะว่า
ว่ากันว่า
มันจะเรืองแสงไปเรื่อย
จนกว่า
ดวงอาทิตย์จะดับไปแล้ว
20 ปีนั่นแหละ
มันถึงจะหมดแสง :)
มาดูการเรืองแสงในที่มืด
อันนี้เพิ่งออกจากแสงมาใหม่ๆ
พลังงานจาก Luminova
ตามมาร์คเกอร์และตัวหนังสือ
ยังสว่างกว่า Gaslight Capsule
แต่ว่าพอหลายๆชั่วโมง
แสงอื่นจะลด แต่ Gaslight
ที่เข็มชม.และนาที
จะสว่างตลอดไป
ด้านหลังเมื่อใส่ฝาแบบเปลือยผ่านกระจก
Crystal sapphire
มองเห็นเครื่องสวย
VS 1962 ที่เค้าบอกว่า
ดัดแปลงมาจากเครื่อง
สวิสต์ ในยุค ปี 60
ซึ่งดูแล้ว คิดว่า
Base
น่าจะมาจากเครื่อง
Venus 175
เครื่องดังในอดีต
เป็นเครื่องไขลาน
ความถี่เครื่อง 21600 Bph
มีทับทิมรองรับแกนหมุน
20 Jewels (ถ้าเป็นรุ่น
ที่มี Subdial 3 วง ( Tri Compax (VJ-1873)
อันนั้นจะเป็นความถี่
28,800 bph)
ความเที่ยงตรงเท่าที่ลองวัดดู
เดินได้เที่ยงตรงระดับ
วันละประมาณ บวกลบ 5-6
วินาที
ใกล้เคียงกับ ระดับ
ที่ผ่านการทดสอบ Chronometer
จาก COSC ทีเดียว
ฝาหลัง ขันเกลียว
ร่วมกับเม็ดมะยม
และปุ่มกดจับเวลาขันเกลียว(เหมือน
ของ Rolex
Daytona)
ช่วยให้กันน้ำได้ลึก
100 เมตร (และถ้าใส่ฝาหลังเหล็กทึบพร้อมแผ่นรอง
Soft Iron
กันแม่เหล็กก็จะกันสนามแม่เหล็กได้ถึง
1000 Gauss เครื่องโดยรวม
Finished ได้สวยพอใช้
สกรู ทำเป็น Blue Steel
เพื่อความสวยงามและแข็งแรง
สวยรับกับ
ทับทิมสังเคราะห์สีชมพู
ด้านข้างตัวเรือน
ค่อนข้างหนา
เมื่อเทียบกับ
ความกว้างของตัวเรือน
รูปทรง คล้ายจานบิน
หัวเข็มขัด
รูปทรงเหมือน Pre Vamdome
Buckle ของ PAM แต่หนากว่า
ส่วนสายเป็นสายหนังหนานุ่มสองชั้นเย็บด้วยมือ
และเดินด้ายเส้นใหญ่โชว์ตะเข็บ
นุ่มกระชับมือ
Wrist Shot
กับข้อมือขนาดเล็ก
ถ้าเทียบกับ ตัว Radimir
อย่าง Pam 183 จะเห็นว่า
ไม่ใหญ่จนเทอะทะ
แต่ก็ไม่เล็กครับ
กำลังดี (แต่ถ้าใจผมเอง
ใหญ่กว่านี้อีกหน่อยน่าจะดี
อิๆ
สรุป ถ้าเป็นนักสะสมนาฬิกา
หรือชอบนาฬิกาแปลกๆ
RXW เป็นอีก Brand
ที่น่าจะหามาเก็บไว้
หรือแม้แต่ใช้งานจริง
ก็ยังถือว่าคุ้มค่า
สำหรับผมเอง
ก็ยังอยากหา MM20 Marina
Militare ตัวดัง
มาเก็บไว้เหมือนกัน
:P
|