PLAZEON Chrono-Momento II
PLAZEON Chrono-Momento II
นาฬิกา
ที่หลายคนอาจจะทราบกันดีแล้ว
ว่าเป็นผลงาน
ที่น่าภาคภูมิใจของคนไทยเราเอง
เป็นผลงานของคุณ
ธีรเทพ สอสกุล หรือ
Punkky ของเพื่อน ชาว Siam
Naliga (www.siamnaliga.com)
ซึ่งเป็นผู้ที่มีใจรัก
เก็บสะสม และ ศึกษา
นาฬิกา Chronograph
ที่ใช้กลไกClassic แบบ
Column Wheel
จนเรียกได้ว่าเป็น
เซียน Column Wheel คนนึง
และ ด้วยประสบการณ์
ที่ทำงานอยู่ในต่างแดน
ได้มีโอกาสติดต่อกับผู้ผลิต
เครื่องกลไก นาฬิกา
และ ตัวเรือน
ประกอบกับใจรัก
ทำให้คุณ Punkky
ตัดสินใจ สั่งผลิต
Plazeon ออกมา
เพื่อคนที่รักนาฬิกา
ที่ต้องการนาฬิกา
ที่มากกว่าเครื่องบอกเวลาธรรมดา
ชื่อ PLAZEON มาจากคำว่า
Plazo ในภาษาสเปน
ที่แปลว่า เวลา กับ
Eon หรือ Aeon
ที่แปลว่ายาวนานไม่มีที่สิ้นสุด
ดังนั้นความหมายรวม
ของ PLAZEON ก็หมายถึง
เวลา
อันเป็นิรันดร์
ยาวนาน
ไม่มีที่สิ้นสุด
ซึ่งเราหวังว่า Plazeon
ของเพื่อนเรา Brand นี้
คงจะก้าวต่อไปอย่างมั่นคงตลอดกาล
Plazeon รุ่นแรก
ที่ออกวางตลาด
ก็คือ Chrono-Momento II
เรือนนี้นี่เอง
หลายคนอาจจะแปลกใจ
ที่นาฬิการุ่นแรก
ที่วางตลาด ทำไม
จึงใช้
ระหัสต่อท้าย II คุณ
Punkky
ให้คำตอบสำหรับคำถามนี้ไว้ว่า
จริงๆแล้ว มี ChronoMomento I
อีกตัว
ที่อยู่ระหว่างการวิจัย
และพัฒนา อยู่
และคงจะวางตลาดในโอกาสต่อไป
กล่องนอกสีแดงสดใส
มีโลโก้ของ Plazeon
ซึ่งดูคล้ายพระอาทิตย์
พร้อมรัศมีกำลังฉายแสง
แต่จริงๆแล้ว
ต้องการสื่อตัวแทนเฟืองจักร
ของ Column Wheel มากกว่า
กล่องในเป็นกล่องไม้ลงยูรีเทน
สวยงาม งานปราณีต
แม้แต่การลบมุมต่อของไม้
โลโก้ สีทอง
โดดเด่นสวย
มีคุณค่า
ภายในกล่องบุผ้าสักะหลาดสีเบจ
สวยเรียบ
กล่องที่ยาวเป็นพิเศษเนื่องจาก
ต้องการวางนาฬิกาเก็บตามยาวโดยสายไม่ต้องพับงอ
รวมทั้งสายสำรองสีน้ำตาล
ที่มีให้สับเปลี่ยนพร้อม
กับ Buckle
คนล่ะชุดไม่ต้องสับเปลี่ยนให้เสียเวลา
โดยมี Screwdriver
ให้มาพร้อม (เหมือนกับ
PAM เลย )า
ความพิถีพิถัน
ของคุณ Punkky นั้น
ดูได้แม้แต่ผ้าเช็ดนาฬิกา
ที่ติดมาให้
ยังเป็นของ Selvyt
แบรนด์ดังจากอังกฤษ
อีกต่างหาก :P
เข้ามาดูหน้าตากันใกล้ๆ
ตัวเรือนทำจาก Stainless
Steel Grade สูงสุดคือ 316L
ขัดมันทั้งเรือน
โดยออกแบบให้เป็น
Dress Watch
ที่มีขนาดปานกลางค่อนไปทางใหญ่ตาม
สมัยนิยม
กระจกหน้าปัดเป็น
Crystal Sapphire
กันรอยขีดข่วนได้ดี
ขนาดตัวเรือน Diameter =41 mm.
Diameter ถ้าวัดรวม Crown =44 mm.
ส่วนDiameter
ของกระจกหน้าปัด =35 mm.
ความหนาวัดได้เองด้วย
Caliper 12 มม.(ในขณะที่ตัวเลขเคลมจากเว็บ
10 มม. )
ขนาดความกว้างของหูสาย
22 mm .
หน้าปัดกึ่งเงินกึ่งงาช้าง
แกะลาย Guilloche
ดูสวยคลาสสิค มี Subdial
สองวง วงแรกที่ 3 น.เป็นเข็ม
จับเวลาเป็นวินาที
ส่วนวงที่สอง
อยู่ที่ 9 น.
เป็นเข็มวินาที
ของเวลาปกติ
ส่วนเข็มจับเวลาวินาทีอยู่ตรงกลาง
รวมกับ เข็มนาที และ
ชม. รูปทรงเข็มเพรียว
สวย คลาสสิค รับกับ
ตัวเลข
โรมันบอกเวลา Lay Out
ของหน้าปัดมองเผินหลายคนจะบอกว่า
ดูคล้ายกับหน้าปัด
ของ PP5070 เหมือนกัน :P
แม้วงจับเวลา
จะมีแค่ 30 นาที
แต่ไม่ต้องห่วงว่าจะจับเวลานานๆไม่ได้
เพราะว่า
เมื่อใช้ร่วมกับเข็มชม.ปกติ
เราก็สามารถจับเวลาได้
ยาวนานเท่าที่ต้องการ
ด้านหลังเปลือยโชว์เครื่องผ่านทาง
กระจก Crystal Sapphire ใส
ให้เห็นเครื่องที่
Finished ด้วยลาย Coted De Geneve
ลายทางขวาง
สวยงามไม่แพ้นาฬิกาสวิสต์
ชั้นสูง
ฝาหลังเป็นแบบอัดแน่นด้วย
Screw
พร้อมซีลยางกันน้ำได้
30 เมตร
เครื่อง
อย่างที่ทราบกันดี
เป็นกลไกจับเวลา
คลาสสิค แบบ Column Wheel
กดได้นุ่มมือ
ทำงานเที่ยงตรงแม่นยำ
เครื่องตัวนี้
เป็นเครื่องไขลานด้วยมือ
(Manual Winding) ถ้าแฟนColumn Wheel
ดูแล้ว
อาจจะคิดว่าเป็นเครื่อง
Venus 175
เครื่องดังของสวิสต์
ที่ใช้นาฬิกาชั้นดี
หลายแบรนด์ ในอดีต
แต่ว่า จริงๆแล้ว
แม้จะคล้ายกันมาก
แต่ก็มีจุดต่างๆ
สำคัญหลายอย่าง
เช่น ตัวนี้ ได้ Modified
ให้มีความถี่สูงขึ้น
จาก 18,000 bph ไปเป็น 21,600 bph
ให้พลังงานสำรอง
ในการใช้งาน
นานประมาณ 40 ชม.
ทำให้เข็มเดินนุ่มนวลขึ้น
และยังเพิ่ม
ทับทิมสังเคราะห์รองรับแกนหมุน
จาก 17 Jewels มาเป็น 20 Jewels
โดยตัวอย่างทับทิมที่เพิ่มเข้ามา
รองรับเฟืองจับเวลา
ตามในรูป
เป็นต้นซึ่ง
ข้อดีของการเพิ่มทับทิมเม็ดนี้
รองรับแกนหมุน
ก็ช่วยลดการสึกหรอกจากการเสียดสีทำให้
สามารถกดปล่อยจับเวลาต่อเนื่องได้
นาน
โดยไม่ทำให้เครื่องสึกหรอได้ง่าย
และที่เห็นได้ชัดๆ
ก็คือ Finisned
ของเครื่องตัวนี้
สวยงามกว่าเครื่องดิบๆของ
Venus 175 มากทีเดียว
รวมทั้ง Blue Steel Screw
ที่ทั้งสวยและแกร่ง
สำหรับเครื่องนี้
ถ้าผมเดาไม่ผิดคิดว่า
น่าจะเป็นเครื่องสวิสต์
ตัวเดียวกัน และ
ออกมาจากโรงงานผู้ผลิต
เดียวกับเครื่องของRXW
Plasmir Milgraph นาฬิกา Brand ดัง
จากผู้ผลิต
ศิลปินอิสระ
จากแดนอาทิตย์อุทัย
ที่เคยทำให้ยักษ์
ใหญ่ วงการนาฬิกาโลกอย่าง
Officine Panerai สะอึกมาแล้ว
และเป็นขวัญใจ
ของนักสะสมนาฬิกาทั่วโลก
ลองคลิคเทียบกันดู
นะครับRXW Plasmir Milgraph (Bi Compax) อ้อ
แต่จากการลองกดจับเวลาเทียบกัน
ต้องบอกอย่างภูมิใจแทนเพื่อน
ว่า Plazeon
กลไกนุ่มมือกว่า
ครับ :P
ด้านข้างตัวเรือน
ไม่หนามากนัก
สวยเรียบๆ สังเกตุ
สลักสายนาฬิกาใช้สกรูไขเปลี่ยนเหมือนกับ
ของPam โดยใช้ Screwdriver
ที่มีมาให้ในชุดได้เลย
สะดวกสบาย ทำให้
สลับใส่กับสาย
หนังลำลองสีน้ำตาลได้สะดวก
เม็ดมะยมสลัก โลโก้
เฟือง Column Wheel
เม็ดมะยมขนาดใหญ่
จับถนัดมือ
Buckle
ขัดมันสวยงาม
พร้อมโลโก้ อันเก่ง
สวยครับ สวย :P
สวมกับข้อมือ
ขนาด 6 นิ้ว ของผม
ไม่เล็กไม่ใหญ่ขนาดกำลังดี
สรุป
สำหรับคนสะสมนาฬิกา
ที่ชื่นชมนาฬิกา
เครื่องสวย
กลไกเยี่ยม
โดยเฉพาะ
แฟนกลไกจับเวลา Column
Wheel เรือนนี้เป็น
อีกเรือนที่น่าสะสมไว้
ได้ข่าวว่าล้อตแรก
ที่เข้ามาเมืองไทย
ถูกจับจองหมดไปแล้ว
อย่างรวดเร็ว
สำหรับล้อตใหม่ ในขณะที่รีวิว
ณ กรกฏาคม 2006
ได้ยินว่า คงจะต้อง
รออีกประมาณ 1-2 เดือน
ถึงจะเข้ามา
ถ้าใครสนใจลองติดต่อ
คุณ Punkky ดู
หรือเข้าไปดู
ในเว็บ ของ Plazeon
ได้ครับ http://www.plazeon.com/ อาจจะได้
Column Wheel เรือนสวยนี้
มาเก็บไว้
ในราคาแค่ประมาณ 2%
ของ PP5070 เท่านั้น :P
(ขอขอบคุณ คุณ
Punkky
สำหรับข้อมูลบางส่วน
และ
ภาพเปรียบเทียบเครื่อง
ระหว่าง ChronomomentoII และ Venus
175)
|