Omega Speedmaster Moon Phase ref
3575.20.00
Movement Caliber:1866
Speedmaster ที่
ดูเหมือนจะเป็นตัวที่มีฟังชั่นเยอะกว่าเพื่อนร่วม
ซีรีย์ ทั้งหมด และ
Discontinue
หยุดผลิตไปแล้วในปี
2003
ตัวนี้มาพร้อมกล่องหนังสีแดง
ของโอเมก้า
ที่ต้องกระซิบบอกไว้เลยว่า
คุณภาพเท่าที่พบมา
ในบรรดากล่องหนัง
นาฬิการะดับบนหน่อยแล้วของโอเมก้าแย่สุด!!!!!!!!!!!!!
ทั้งกล่องและซองใส่ใบรับประกัน
ทิ้งไว้ไม่กี่ปี
เปื่อยยุ่ยหนังลอกหมด
:( :( ไม่รู้เมื่อไร
จะปรับปรุง
แต่ว่าถ้าเป็นกล่องไม้
ยูรีเธน ล่ะก้อ
เจ๋งครับ :)
ด้านในพร้อมซองหนังใส่ใบรับประกัน
สวยงาม (แต่ไม่คงทน
อิๆ :P P)
มาชมหน้าตากันชัดๆ
ตัวนี้เป็นตัวเรือน
Stainless Steel มาพร้อมสาย SS
เช่นกัน
หน้าปัดรุ่นนี้มีหลายสี
หลายแบบ สำหรับตัวนี้
เป็นหน้าปัดสีขาวงาช้าง
เข็มทรง Braod & Arrow ชุบ
Blue Steel ขนาดตัวเรือน
Diameter 42 มม. ถ้าวัดรวม Crown
ก็43วัด ที่ Bezel 40 มม.
ส่วน Diameter กระจก 34 มม. (กว้างกว่าพวก
โรเล็กซ์
สปอร์ตทั้งหลายอยู่
4 มม.) ความหนาตัวเรือน
14 มม.
ความกว้างของหูสาย
20 mm
Lay out ของหน้าปัด มีSubdial
บอกเวลาวินาที ปกติ
อยู่ที่ 9 น. ส่วน subdial
ที่ใช้จับเวลา ตัว
นาทีบอกรอบละ 30 นาที
อยู่ที่ 3 น. และ
ตัวบอกชั่วโมงบอกรอบละ
12 ชม.อยู่ที่ 6 น.
ส่วนเข็มจับเวลาวินาที
อยู่ตรงกลางร่วมกับเข็มยาวและเข็มสั้น
เพื่อ
จะได้ใช้งานร่วมกับ
Tachymetre ที่
Bezel ได้นั่นเอง
Subdial ที่เพิ่มมา ที่ 12
น.วงนอกบอก
วันด้วยเข็ม และมี
พระจันทร์
สีทองบอกข้างขึ้นข้างแรม
(Moon Phase)อยู่ตรงกลาง
ขอบ Bezel ของรุ่นนี้
จะทำจาก ทองคำขาว(White
gold )เพื่อความแววงาม
สลักตัวเลข และ
ขีดบอกนาทีเป็นร่องลึก
เพื่อใม่ให้หลุดลอก
ได้ สวยลงตัวดี
กระจกหน้าปัดตัวนี้เป็น
Crystal Sapphire
กันรอยขูดขีดได้ดี
และ ด้านใน
เคลือบด้วย Anti-reflective agent
ป้องกันแสงสะท้อนทำให้มองเวลาได้ชัดเจนสวยงาม
ฝาหลัง
รูปม้ามังกรตัวเก่ง
ของ Speedmaster พร้อม
คำคุยโม้ ตามฟอร์ม
ว่าเป็น The 1 st watch worn on the moon
(แสดงว่าใครซื้อนาฬิกาตะกูลนี้
นี่ได้มือสองหมดโดนแอบเอาไปใส่มาก่อนแล้ว
: ) :) :P )
ฝาหลังเป็นแบบทึบ
ขันเกลียวอัดแน่น
ทำให้มองไม่เห็น
เครื่อง Caliber 1866
ซึ่งตัวนี้ Rhodium-plated finish
สวยงามระดับที่ว่าโชว์เครื่องได้เลย
(แต่ไม่ยักโชว์ แฮะ )
กันน้ำได้ลึกไม่มากแค่
30 meters เท่านั้น
ตัวเครื่องตัวนี้เป็นกลไกไขลานด้วยมือ
(Manual Winding)
ให้พลังงานสำรอง Power
Reserve ประมาณ 48 hours
ด้านข้าง
รูปทรงเหมือนกับ
Speedmaster
ทั่วไปขนาดใกล้เคียงกับ
BA
สังเกตุด้านข้างมีปุ่มที่กดเปลี่ยนด้วย
Puhser ใช้ช่องล่าง
ใกล้ๆ 10 น.
นั่นสำหรับตั้งวันที่
และ ช่องบน ที่ใกล้ๆ
11 น.
นั่นสำหรับกดตั้ง Moon
phase
ตัวเรือนด้านข้าง
ส่วนใหญ่เป็นขัดด้านสลับขัดมันบ้างเล็กน้อย
บานพับ
ตัวนี้เป็นรุ่นใหม่มีปุ่มนิรภัยคอยกดปลดล้อคทั้งสองด้านป้องกันกันหลุดใช้งานง่ายดี
เบาแรงกว่ารุ่นเก่าที่ใช้ดึงงัดกัน
ลูกเดียว :)
ส่วนตัวสาย
ส่วนใหญ่เป็น Stanless Steel
ขัดด้าน สลับ
ขัดมันเล็กๆเท่านั้น
แข็งแรงทนทานดูท่าทาง
ไม่ยืดง่ายแน่
ทาบกับข้อมือ
6 นิ้ว เต็มพอดีๆ
ไม่ใหญ่เกินไป
กำลังพอดี
ตามสไตล์นาฬิกาสปอร์ต
หรือ
แม้แต่จะใส่กับชุดทำงานเป็น
Dress look ก็ย่อมได้
สรุป
เรือนนี้ราคา Price list
ก่อนหยุดผลิต
นี่หนีไปเกือบ
สองแสน
แต่ว่าหลังจากหายไปจากตลาดระยะนึง
กลับแปลกที่มีของ New
Old Stock
ไหลกลับมาจากญี่ปุ่น
มาในไทย
ในระยะกลางปี 06
นี่เยอะทำให้ราคาไหลลงจาก
แถวแสนต้นๆ มาเหลือแถว
8-9 หมื่นเท่านั้น
ใกล้เคียงกับ Speed Master
รุ่นทั่วไป
และถูกกว่า BA ซะอีก
ดังนั้น
ถ้าใครชอบเก็บของเก่าที่เลิกผลิตไปแล้ว
ชอบกลไกมากหน่อย
แถมได้ขอบ Bezel White Gold
สวยงามไว้คุยเล่นแล้ว
ตัวนี้
นับเป็นตัวนึงที่น่าสนใจ
ลองหาดู
ก่อนที่มันจะไม่มีให้หา
:P
|
