Nike Free The Review
นวัติกรรม
อีกครั้งหนึ่งของวงการรองเท้า
เมื่อ Nike Corporation ส่ง Nike Free
ออกสู่ตลาดโดยวาง
Positon ของสินค้า
ให้แปลกแตกต่างไปกับรองเท้ากีฬาในกลุ่มอื่นๆ
อย่างเช่นเดิมรองเท้าสำหรับนักวิ่ง
เรามักนิยมแบ่งกันเป็นสองกลุ่มใหญ่ๆ
คือ
รองเท้าสำหรับแข่งขัน(
Racing Shoes ) ซึ่งเป็นรองเท้าที่เบาบางกระชับเท้า
เน้นการทำความเร็วได้ดี
เหมาะสำหรับสำหรับการวิ่ง
ที่ใช้เพื่อแข่งขัน
เพื่อหวังผลการทำความเร็ว
แต่ว่าระบบรับแรงกระแทก
จะไม่ดีนัก
รองเท้าสำหรับฝึกซ้อม(Training
Shoes) ซึ่งมักจะเป็นรองเท้าที่หนานุ่ม
มีระบบการรองรับการกระแทกดี
เป็นพิเศษ
ทำให้เวลาใช้จ๊อกกิ้งหรือฝึกซ้อม
แม้จะหนักหน่อยแต่ลดการบาดเจ็บของเท้าและ
ข้อต่อต่างๆของขาได้ดี
แต่ Nike Free Present Postition
ของตัวเอง
ออกมาเป็นรองเท้าเพื่อการ
Training เท้าให้แข็งแรง
หรือ Feet Exercise Shoesโดย
คอนเซ็ปท์ของเค้าก็คือ
เท้าคนเราควรได้รับการออกกำลัง
บริหารอย่างต่อเนื่องเพื่อความแข็งแรงของเท้า
และ
การบริหารเท้าที่ดี
คือการวิ่งด้วยเท้าปล่าว
(Bare Feet Training)
เพื่อให้เท้าได้สัมผัสกับพื้นนุ่มและเคลื่อนไหว
ได้อย่างอิสระทุกทิศทาง
ไม่มีสิ่งกีดขวางจำกัดหรือบีบรัดเท้า
ซึ่งความคิดนี้ได้รับการยอมรับและปฏิบัติโดยนักวิ่ง
และนักกีฬาทั้งระดับชาติและระดับโลกมากมาย
ที่นิยมวิ่งเท้าปล่าวบริหารเท้าบนพื้นหญ้านุ่ม
ตัวอย่าง Modelเท้าอันนี้
นี่แหละ
ที่ทางไนกี้ใช้เป็นต้นแบบสาธิตการเคลื่อนไหวการบิดตัวงอตัวเคลื่อนไหวของเท้าในทุกๆ
ทิศทางอย่างอิสระ
แต่การวิ่งเท้าปล่าว
ก็มีข้อจำกัดเนื่องจากเราไม่สามารถหาพื้นนุ่ม
และปลอดภัยได้ทุกหนแห่ง
ดังนั้น เค้าจึงออกแบบรองเท้า
Nike Free ออกมาเพื่อช่วย
ให้มีการเคลื่อนไหวได้อิสระคล้ายวิ่งด้วยเท้าปล่าว
แต่ว่าให้ความปลอดภัยวิ่งได้ในเกือบทุกพื้นที่ที่ต้องการ
พื้นรองเท้าทำจากแผ่นยางอ่อนนุ่มงอตัวได้ง่ายแต่ยังกลัวจะงอไม่ง่ายพอ
ก็เลยจัดการเฉือนให้มันแยกออกเป็นชิ้นเล็กๆทั้งแนวตั้งและแนวขวางเพื่อให้เท้าสามารถเคลื่อนที่บิดตัวได้อย่างอิสระ
เนื้อหน้าผ้าของรองเท้าทำด้วยหนังเทียม
คล้ายหนังชามัวร์
หรือหนังกลับ
ยืดหยุ่นได้ดี
แต่ก็ยังกลัวยืดได้ไม่ดี
พอ อย่ากระนั้นเลย
จัดการ
เจาะกรีดเป็นช่องๆเล็กๆตามแนวยาวของแนวเท้าเพื่อให้ยืดขยายได้ตามเท้าขณะเคลื่อนไหว
ส่วนทางด้านปลายเท้าก็กรีดตามแนวขวางให้ยืดอ้าได้
ง่ายขึ้นตามการจิก
หรืองอปลายนิ้วเท้า
ด้วยคอนเซ้ปที่ว่า
อยากให้รู้สึกเหมือนกับวิ่งด้วยเท้าปล่าว
ดังั้นนอกจากพื้นที่อ่อนนุ่มเบา
งอได้ง่ายเนื้อผ้ายืดหยุ่นได้มากเป็นพิเศษแล้ว
Insole
ของรองเท้าก็ออกแบบมาให้ถอดออกเปลี่ยนได้
และมีให้เลือกสองชุด
ชุดแรกขนาด 5.0
หนานุ่มหน่อย
สำหรับระยะเริ่มแรกที่เท้ายังไม่แข็งแรงมาก
จะได้นุ่มช่วยลดการบาดเจ็บ
แต่เมื่อเทรนไปได้ระยะนึงจนเท้าแข็งแรงขึ้นค่อยเปลี่ยน
เป็นไซซ์
ที่สองขนาด 4.0
และสุดท้ายเมื่อเท้าแข็งแรงดี
ก็ถอดออกหมดไม่ต้องใช้ก็ได้
Nike
ทุ่มงบจำนวนพอสมควร
สำหรับการวางตลาดไนกี้ตัวนี้
หลังจากออกสู่ตลาดที่
USA ประมาณ ก่อนปลายปี
2004 ช่วง ปลายปี 2004
ตัวแทน Nike Thai
ได้นำรองเท้ารุ่นนี้
จำนวน สิบคู่
เข้ามาให้
ผู้ที่ออกกำลังกายในวงการต่างๆ
ทั้งนักกีฬาทีมชาติ
นักแสดง และ Trainer
ตามฟิตเนสต่างๆ
ได้ทดลองนำ Nike free
มาลองทดสอบในการฝึกความแข็งแรงของเท้า
สำหรับผมเอง
ก็ได้เลือกในฐานะนักวิ่งสมัครเล่นด้วย
และทำรีพอร์ต
การทดลองใช้ส่งให้กับทางไนกี้
นำข้อมูลไปวิเคราะห์
ก่อนนำรองเท้าออกสู่ตลาดเมืองไทย
เมื่อต้นปี 2005
ผลการทดลอง ใช้
ต้องยอมรับว่าเป็นรองเท้าที่นุ่มใส่สบายให้ความรู้สึกสบายเท้าขณะวิ่ง
รับแรงกระแทกได้ดีพอใช้(แต่ไม่ดีมากนัก)
เท้าเคลื่อนไหวได้สะดวกสบายขณะวิ่ง
แม้จะไม่ใส่ถุงเท้า(ตามคอนเซ้ป)
ของการเทรนเท้า
ก็ยังไม่รู้สึกระคายเคืองเท้ามากนัก
สำหรับความรู้สึกเรื่องผลที่ได้จากการแข็งแรงของการเทรนเท้า
เนื่องจากไม่ได้เทรนติดต่อกันนานพอ
เลยไม่เห็นผลได้ชัดเจน
แต่ที่ประทับใจ
ก็คือความรู้สึกขณะที่ใส่วิ่งเบาๆ
จ๊อกกิ้ง
ที่มันอิสระนุ่มสบายเท้า
นิ้วเท้าเคลื่อนไหวได้อิสระ
และรู้สึกเหมือนอุ้งเท้าได้รับการนวดเป็นระยะตอนวิ่งลงเท้า
ทำให้ชอบที่จะนำมาใช้
ในการใส่วิ่ง
วอร์มอัพและคูลดาวน์
เพราะว่าช่วยให้เท้ารู้สึกผ่อนคลายดีมาก
จนต้องยกให้มันเป็นสุดยอดรองเท้าสำหรับการใส่วอร์ม
(สงสัยกลายเป็นอีกเซ้คชั่นนึง
ของรองเท้าไปแล้ว
แม้จะผิดวัตถุประสงค์
ของไนกี้เค้าไปหน่อย
อิๆ :P )
Clasification Feet
Exercise or Feet Traing Shoes
ขนาด 26.5 CM ,
US No 8.5
น้ำหนัก
ต่อข้าง 225 กรัม
วัสดุ
และเทคโนโลยี่
พื้นยางไฟล่อน
ตัดแบ่งเป็นชิ้นย่อยเพื่อการเคลื่อนไหวอิสระ
ผ้ารองเท้าทำจากหนังเทียมยืดหยุ่นและกรีดร่อง
ช่วยให้ยืดหยุ่นได้ดี
และช่วยระบายควมร้อนได้ดีด้วย
Fitting
กระชับเท้าดี
แต่เป็นแบบ
กระชับแนบ
แต่ยืดหยุ่นได้มาก
ไม่รัดแน่น
ใช้ได้ตั้งแต่คนหน้าเท้าแคบไปถึงกว้างเลยทีเดียว
Feeling On Motion
นุ่มเบา สบายเท้า
แต่ส้นเท้าต่ำ
ไปหน่อย
เวลาวิ่งลงส้นเท้าอาจจะรู้สึกว่าส้นเท้าถึงพื้นช้า
แต่ว่า
ถ้าเทียบกับเท้าปล่าว
ก็ใกล้เคียง
พอสมควร
Cushioning
ไม่ดีนักแต่
ก็ใช่เรื่องที่ต้องการอยู่แล้ว
ราคา Price list
บริษัท ในเมืองไทย
อยู่แถว 4
พันกว่าบาท
หลังจากได้คู่ทดลองคู่แรกจากทางไนกี้ฟรี
ผมหิ้วคู่ที่สองสี
เทาแดง
ข้างบนมาจากสิงค์โปร์
ที่ราคาไม่ถึงสามพันดี
Comment
ผมเองชอบที่จะใช้มันเป็นรองเท้าเพื่อการฝึกซ้อม
ในช่วง Warm Up และ Cool Down
แบบวิ่งเบาๆ สบายๆ
รีแล็กซ์เท้า
แต่มีบางคนเอาไปใช้วิ่งในสนาม
แล้วชอบก็มี
แต่ขณะเดียวกัน
ก็มีบางคนนำมาบ่นว่าใช้วิ่งแข่งแล้วพื้นสึกง่าย
และ
บาดเจ็บจากการวิ่งได้ง่ายซึ่งจะว่าไปแล้ว
ก็เป็นเพราะว่าการใช้งานที่ผิดวัตถุประสงค์
ของรองเท้านั่นเอง
ส่วนใครที่ติดใจสีสัน
และแบบที่ถูกใจ
จะเอามาใส่เดินเล่นสบายเท้าก็ไม่ว่ากัน
เพราะว่าไอ้คู่ข้างล่างนี่แฟนผม
เค้าก็ใส่เดินเล่น
เฉยๆไม่ได้ใช้วิ่งเช่นกัน
แฮ่ะๆ :P
(Report Date June 2005)
คลิคกลับไปJfk
Running Corner