-=Jfk=-

Watch Collection

Speedmaster Moonwatch (sapphire back)(Ref.3572.50)
Movement: Omega 1863

ตำนานอันยิ่งใหญ่อีกหน้าหนึ่งของมวลมนุษยชาติ "Speedmaster Professinal" The only watch worn on the moon.
นาฬิกา รุ่นเดียว ที่เคยถูกสวมใส่ บนดวงจันทร์ เมื่อครั้งที่ Apollo 11 นำนีลส์อาร์มสตรอง และ เอ็ดวิน แอนดริน ไปลงบนดวงจันทร์ และ สร้างชื่ออีกครั้ง เมื่อคอมพิวเตอร์หลักของApolo 13 เกิดเสียหาย และยานไม่สามารถพานักบิน ลงดวงจันทร์ได้ นาฬิกานี้ได้ช่วย ชีวิตนักบินทั้งหมด ในการคำนวนเวลาในการกลับสู่โลก ได้อย่างปลอดภัย ใครอยากทราบเรื่องราวละเอียดหา VDO Apollo 13 ที่ Tom Hank แสดงนำมาดูได้ :P

ตัวนี้มากลับ กล่องหนังสีดำสนิท หรูเรียบแบบผู้ดี ตัวล้อคทำเป็นสายสอดแบบเข็มขัดแบบง่ายๆ :P

ภายในกรุด้วยผ้ากำมะหยี่สีเทาอ่อน ฝาปิดด้านบนทำช่องเก็บเอกสารและใบรับประกัน(ยังกะซองเก็บของข้างประตูรถยนต์แน่ะ :P

รูปแบบของนาฬิกาตัวนี้ ยังคงใช้รูปแบบเดิม หน้าตาของ Moon watch ส่วนใหญ่ไว้ หน้าปัดสีดำสนิท ตัดกับตัวเลข และเข็มสีขาว มี Subdial สามวง ที่ 3 น.ใช้เพื่อจับเวลา เป็นนาที รอบละ 30 นาที และที่ 6 น.เป็นเข็มจับเวลาชม.บอกเวลาได้ 12 ชม. ส่วนที่ 9 น.เป็น Subdial Second เป็นเข็มวินาที ของเวลาปกติ เข็มวินาทีจับเวลาเป็นเข็มปลายหอกทรงสวย อยู่รวมกับเข็มชม.และนาที ที่ตรงกลาง
ตัวเรือนเป็น Stainless Steel ขัดเงาสลับด้าน สวยเรียบ ขนาดตัวเรือนขนาดกลาง Diameter ของตัวเรือน 42 มม. Diameter ของขอบ(Bezel) 39 มม. Diameterของกระจกหน้าปัด 34 .มม. ความหนาของตัวเรือน 14.5 มม ความกว้างหูสาย 20 มม.
ขอบหน้าปัด (Bezel) มี
Tachymetre ช่วยคำนวนความเร็วเมื่อใช้ร่วมกับเข็มจับเวลาวินาที ที่มี Scale แบ่งย่อยออกเป็น 1/5 วินาที กระจกหน้าปัดรุ่นนี้เป็น Plastic (Plexy Glass หรือบางคนเรียกว่า Celluloid )ตาม Concept ของ Moon watch ตัวเก่า ซึ่งอาจจะเป็นรอยได้ง่ายจากการใช้งาน แต่ก็สามารถขัดลบรอยได้ง่ายเช่นกัน

สำหรับตัวนี้เป็นรุ่นที่ด้านหลังเปลือยมองเห็น กลไกผ่านกระจก Crystall Sapphire ที่ทนการขีดข่วนได้ กลไกรุ่นนี้เปลี่ยนมาใช้ Caliber 1863 ที่ Finished ได้สวยงาม เพื่อโชว์เครื่องทางหลังกระจกเปลือย โดยเป็นแบบไขลานด้วยมือ (Manual Winding) ให้สำรองพลังงานได้ 48 ชม. จากการทดลองใช้ สามารถเดินได้เที่ยงตรง ระดับ บวกลบไม่เกิน 5 วินาทีต่อวัน แม้จะไม่ได้ผ่านการทดสอบ Chronometer จาก COSC
เครื่องFinished ได้สวย กลไกบางส่วนชุบทอง และ Rhodium ดูการขยับทำงานของชิ้นกลไกสวยๆ แล้วเพลินดี ขอบฝาหลังสลัก "Omega Speedmaster Professinal First Watch worn on The Moon"ประกาศตอกย้ำ จุดขายของมัน

ด้านข้าง จากที่วัดมา ความหนา 14.5 มม.ถือว่าหนาพอสมควร แต่ขอบ Bezel และฝาหลัง ที่มี Slope ลาด ทำให้ดูมีส่วนโค้งเว้าสวยคล้ายจานบิน ทำให้ดูไม่หนาเทอะทะมากนัก กลับดูสวย ซะอีก :P

สายเป็น Solid Stainless Steel 3 ชิ้น เหมือนกับ Seamaster Pro บางรุ่น มองดูคล้ายกับ สาย Oyster ของโรเล็กซ์ แต่ สายของตัวนี้ ท่อนกลาง มีการขัดเงาที่ขอบทำให้ มองดูคล้ายกับเป็น สาย 5 ชิ้น

บานพับสาย แกะสลัก โลโก้โอเมก้า พร้อม ชื่อรุ่น Speedmaster Professional ลักษณะบานพับ มีตัวล้อคกดจากด้านข้างสองด้านเหมือนกับ Seamaster Pro แต่ต่างกันที่ชื่อรุ่นเท่านั้น ใส่และถอดได้ง่ายสะดวก แต่แน่นหนามั่นคง

เสียดายที่นาฬิกาตัวนี้เก่งแต่ในอวกาศ ลงน้ำไม่เก่ง กันน้ำได้แค่ 100 ฟุตหรือ แค่30 เมตร ซึ่งคงกันน้ำได้แค่การล้างมือหรือโดนน้ำผิวเผินเท่านั้น เอาไปลุยดำน้ำ หรือ ว่ายน้ำ ลุยหนักๆ คงไม่ไหว
แต่อย่างว่าแหละ แค่เครื่องสวยๆ เอาออกมาไขลาน นั่งดูเครื่องด้านหลังทำงานเล่น ก็สบายใจแล้ว

สรุป
สำหรับคนที่รักจะเล่นนาฬิกา และมีใจให้โอเมก้าอยู่บ้าง ด้วยราคาของหิ้ว แถวๆ 70K หรือ ราคาของห้างลดแล้ว ประมาณ 90 K เรือนนี้ ต้องไม่พลาด ที่จะเอามาเก็บไว้ ใน กรุด้วยอีกตัว :)

Back to Jfk watch Collection

www.2jfk.com

มีข้อแนะนำ หรือ ข้อมูลเพิ่มเติมแนะนำได้ครับ

jfk@2jfk.com