ม่อนจอง
อมก๋อย เชียงใหม่ (1929 m) (28-29 มค.55)
ดอยม่องจอง
ตั้งชื่อเรียกตามลักษณะเขาในภาษาพื้นเมือง
" ม่อน " แปลว่า
เนินเขา หรือ ภูเขา
ส่วน " จอง "
เป็นลักษณะภูเขาที่
เป็นสันเขาลาดเท
ลงสองด้านเหมือนจั่วสามเหลี่ยม
ม่อนจอง เป็นดอยสูง
อยู่ที่ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่
เป็นดอยสูง 1929 เมตร
การจัดอันดับดอยสูง
ถือว่าเป็นดอยสูงอันดับต้นๆ
ของไทย
แม้จะอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่
แต่ว่าตำแหน่งของ
ดอยม่อนจองจริงๆ
แล้ว
อยู่ต่ำลงมาทางใต้
จนติดกับ
บ้านท่าสองยาง ของ จ.ตาก
จากแผนที่จะเห็นว่า
มันอยู่ห่างจากตัว
อ.เชียงใหม่มาก
จนมาติด
บ้านท่าสองยาง จ.ตาก
ดังนั้นจึงไม่แปลกที่
ชาวเขา มูเซอ ของ
ม่อนจอง อมก๋อย กับ
มูเซอของแม่สอด
จะเดินทาง
ติดต่อกันโดยการเดินเท้า
ไปมาถึงกันได้โดยเฉพาะเวลาทีเทศกาล
รวมไปถึงเดินเลยข้ามไปสหภาพพม่า
ที่ห่างออกไปไม่กี่สิบกิโล
แต่ถ้าเดินทางเข้าตัวเมืองเชียงใหม่
ล่ะก้อ
ระยะทางไกลถึง 180 กม.
ทีเดียว
ไกลจากตัวจังหวัด
พอๆกับอ.ฝาง
แถมไปคนล่ะทิศ ถ้า
คนอมก๋อยเดินทาง
ไปเยี่ยมญาติที่ฝาง
ในจังหวัดเดียวกัน
ระยะทางที่ต้องเดิน
ทาง ร่วม 360 กม.สมัยยี่สิบปีก่อน
ตอนผมเรียนที่เชียงใหม่
ต้องเดินทางกันข้ามวันเลย
แต่ปัจจุบันทางดีขึ้นมา
แต่
จากอมก๋อยถึงฝาง
ขับรถไวๆ
ก็ยังต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า
5 -6 ชม.
การเดินทาง
ทริปนี้เราเดินทางกันโดยรถตู้
สามคัน จาก กทม.วิ่ง
ตามสายพหลโยธิน
ขึ้นเหนือ จากกทม.
จนถึง อ.เถิน ลำปาง
ระยะทางรวม เกือบๆ500
กม.
ก่อนที่จะเลี้ยวซ้าย
ออกจากพหลโยธิน
เข้าทางหลวง สาย 106
เถิน ลี้ ฮอด
แล้วแยกเข้า
ทางหลวง 1103 เข้าอ.ดอยเต่า
มุ่ง ไปอ.ฮอด ก่อน
บรรจบกับ สาย 108
เชียงใหม่แม่สะเรียง
แล้ว วิ่งตาม สาย 108
ผ่านออบหลวง
ก่อนไปแยกเข้าทางหลวง
1099 มุ่งสู่ อ.อมก๋อย
จุดหมายแรก คือ
หน่วยมูเซอร์
ที่ทำหน้าที่เหมือน
ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
ที่จะขึ้นสู่ ม่อนจอง
จัดการตรียมสัมภาระ
ต่างๆ ตลอดจนอาหาร
และเต็น ขึ้นรถ 4X4
วิ่ง ขึ้นเขาต่อไป
อีกราวๆ 1 ชม.ไปยังจุดเดินเท้า
ขึ้นดอยม่อนจอง
ลานหน้าองค์พระ
อันเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินเท้าขึ้นยอดดอยม่อนจอง
ระยะทางประมาณ 6 กม.ใช้เวลาเดินกันอย่างสบายๆ
ก็ประมาณ 4 ชม.ถึงจุดกางเต็นต์
แต่ถ้าเดินเร็วๆ
ก็ประมาณ 2 ชม.กว่าๆ
ก็ถึงแล้ว
เส้นทางเดินของม่อนจอง
ค่อนข้างสบายๆ
ทางเดินดี
ไม่มีทากรบกวน
มีช่วงผ่านป่ารกครึ้มเล็กน้อย
สลับกับการไต่ขึ้นสันเขา
ไปเรื่อยๆ
การเดินเขาม่อนจองต่างกับดอยอื่นๆ
ที่ ส่วนใหญ่
ขาขึ้นมัก
จะมีทางขึ้นมากกว่า
ขาลง ทำให้ส่วนใหญ่ขาขึ้น
เหนื่อยมากกว่าขาลง
แต่สำหรับม่อนจอง
ลักษณะทางเดิน
เป็นยอดดอย หลายยอด(นับสิบยอด)
ที่จะต้องเดินไต่ขึ้น
แล้วก็ลาดลง
ก่อนไต่ขี้นใหม่สลับกันไป
จนทั้งขาขึ้นและขาลง
แทบจะไม่ค่อยต่างกัน
มากนัก
แต่ทางเดิน
ค่อนข้างสบายเดินไต่กับไปตามสันเขาสบายๆ
กับเป้ติดหลัง
ของแต่ละคน
ส่วนสัมภาระอื่นๆ
และเต็นต์
จะมีลูกหาบ
จัดการแบกตามไปให้
ทิวเขารอบข้างที่ต่ำลงไป
มองไปไกลๆ
เห็นยอดเขาในอ.แม่สอดจังหวัดตากได้เลย
ดอกสัปปะรดดิน
ริมทาง สวยดี
ดอกไม้ป่าริมทาง
กลางทุ่งหญ้า
กุหลาบพันปี
ต้นใหญ่ๆออกดอกเต็ม
ข้างทางไปหมด
จุดกางเต็นต์
บนยอดดอย
พื้นที่ราบมีไม่มากนัก
ถ้ากางกันหลายกลุ่ม
ก็ต้องกระจายกันออกไป
ใกล้จุดกางเต็นต์
มีธารน้ำเล็กๆเป็นน้ำซับน้ำซึม
ไหลออกมาพอให้ชำระล้าง
และหุงหาอาหาร
รวมทั้งใช้ดื่ม แต่
ไม่พอสำหรับการอาบ
ดังนั้นบนนี้ซักแห้งกัน
แต่ก็ถือว่าดีกว่า
หลายดอยเช่นดอยหลวงเขียงดาว
ที่ต้องแบกน้ำ
ขึ้นไปใช้บนนั้นกันเลย
น้องกุ๊ก Staff
ใจดี ทำหน้าที่
เป็นกุ๊กแทนป๋าคมรัฐ
ที่นำอีกกลุ่มไปลุยถ้ำแม่ละนา
อาหารง่ายๆ กินกันแบบป่าๆ
แต่อร่อยทุกมือ
เดินป่าเหนื่อยแทบตายกลับมาบ้านทีไร
อ้วนขึ้นทุกที อิๆ
จัดการเอาสัมภาระ
เก็บเข้าแค้มป์แล้ว
ตอนเย็นๆมีเวลาเดินย้อนมาเดินเล่นถ่ายรูปกันบนสันเขาห่างจากแค้มป์ในหุบเขาไม่มากนัก
จากจุดกางเตินต์
เดินไล่ตามสันเขาไปยังยอดหัวสิงห์ราวๆ
1 กม.เป็นจุดชมวิวทั้งดูพระอาทิตย์ขึ้น
และตก ตามแนวสันเขา
ยอดดอยหัวสิงห์
จุดสูงสุดของม่อนจอง
มองจากระยะไกล
จะเห็นรูปร่างเหมือน
สิงห์โตหมอบชัดเจน
แต่ผมดูแล้ว คิดถึง
Simba ในเรื่อง Lion King
ที่นอนหมอบบนหน้าผา
อิๆ
แสงตะวันสุดท้าย
บนสันเขา ม่อนจอง
ก่อนเดินลงมากินอาหารค่ำ
ที่เต็นต์
ที่เตรียมกันไว้แล้ว
เช้าวันรุ่งขึ้น
หลายคนตื่นขึ้นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นบนสันเขาและดอยหัวสิงห์กันอีกรอบ
แต่ผมเห็นว่าพระอาทิตย์ก็ดวงเดียวกับที่ตกไปเมื่อวาน
ไปดูอะไรกัน อีก
หือๆๆๆๆ ก็เลย
เลือกนอนสบายๆ
ก่อนเก็บเต็นต์แพ็คของ
เดินทางลง
ดอยแบบสบายๆ แทน
เดินลงเขามาเห็นยอดต้นไม้ต้นนี้
ดูคล้ายม้านิลมังกร
หรือกิเลนเลย อิๆ
เแวะตลาดอมก๋อยก่อนกลับ
เลย แอบ
กินไก่หมุนครัว
อมก๋อยรองท้องอีกมื้อก่อนอำลา
ปิดท้ายทริป เดินเขาสองวัน
ที่ค่อนข้างสบายๆ
ไม่โหดมากนัก
วิวสวยพอใช้
ไร้ทากกวนใจ
|