Vintage UN Michelangelo Ref 161-47
Movement caliber 10 1/2 UN 16 (Base
caliber Frederic Piguet )
นาฬิกามือสอง
ตัวแรกที่ซื้อมาใช้
ก็เรือนนี้แหละ UN
Michelangelo Anual Calendar with Moon Phase
โดยไปได้มาโดยบังเอิญ
จากการไปเดินดู
เลหลังสมบัติ
คนเคยรวยที่ รร.เอราวัน
ตอนนั้นเพิ่งเริ่มเล่นนาฬิกาใหม่ๆ
เจอ UN
เรือนนี้ฟังชั่นเยอะหน้าตาสวยคลาสสิค
ลองเอาให้ศูนย์ที่
Trocadero ดูแล้ว
ชิ้นส่วนแท้
ไม่แปลกปลอม และ
เนื่องจากรุ่นนี้
ยกเลิกสายการผลิตไป
ประมาณหลายปีแล้ว
เลยไม่มีราคาอ้างอิงที่แน่นอน
แต่ราคาตั้งขายในเมืองไทยก่อนที่จะ
หยุดผลิตไป ประมาณ 4-5
แสนบาท
และเมื่อเช็คกับราคาในเว็บของทางยุโรปมีบอกขาย
ที่ราคา ประมาณ 2.6
แสน สำหรับเรือน Steelห่วงสาย
(Lug)ทอง 18K Automatic และ
อีกตัวที่ ญี่ปุ่น 2.5
แสน 18K YG ทั้งเรือน
แต่เป็นเครื่อง Manual
Wind แต่สำหรับเรือนนี้ได้มา
ที่ราคา 150 K
แถมเป็นเครื่อง Automatic
และเป็น18K Gold
ทั้งเรือน ในสภาพ
ค่อนข้างสมบูรณ์
เลยยอมเล่น Vintage
เป็นเรือนแรก มีแต่
สายเท่านั้นที่เจ้าของเปลี่ยนเป็นสายหนังใหม่
โดยใช้ Buckle เก่า
ทำให้ต้องสั่ง
สายพร้อม Pusher
ใหม่มาเปลี่ยนให้เข้าชุดกันทั้งชุด
ตัวเรือน
ทรงเหลี่ยม
ทำจากวัสดุ Yellow Gold 18K
ขอบ Bazel
เป็นบัวไล่ระดับสองชั้น
ขนาด 29 X 34 มม. หนา 9 มม.หน้าปัดเป็นเปลือกหอยมุก(Mother
of Pearl) สีธรรมชาติ
ตัดกับ เข็มสีทอง
และ Blue Steel มี Subdial สามวง
บอกวัน วันที่
และเดือน และ
หน้าต่าง Moon Phase
ที่ตำแหน่ง 6 น.
แต่ไม่มีเข็มวินาที
การปรับตั้งวันที่-วัน-เดือน
และ Moon phase ทำโดยการกดที่ช่องกดช่องเล็กๆด้านข้างนาฬิกา
ด้วย Pusher
ที่ติดมากับสายทำได้ไม่ยาก
ด้านข้าง
จะเห็นรู ด้านล่ะ รู
รวม 2 รู
ที่ใช้กดตั้งสามฟังชั่นคือ
วันที่ เดือน และ
Moonphase
แต่สำหรับการตั้งวัน
จะใช้การตั้งโดยการหมุนเลื่อนครบ
24 ชม.เลื่อนไปหนึ่งวันแทนการกด
ฝาหลังใช้สกรูอัดแน่น
กันน้ำได้แค่ 30 เมตร
ตามสไตล์ของนาฬิากา
Dressing Watch
ที่ไม่เน้นสมบุกสมบัน
มี Sapphire Windows
เผยให้เห็น เครื่อง
ของ Frederic Piguet ที่มี Rotor
ทอง 18K
ซึ่งเข้าลานทางเดียว
(Unidirection) โดยจะเข้าลาน
ขณะที่นาฬิกา
หมุนตามเข็มนาฬิกา (มองจากด้านหน้าปัดหมุนตามเข็มนาฬิกาซึ่งจะตรงข้ามกับ
กลไก Caliber 240 ของ Patek Phillipe)
กลไกอื่นๆส่วนใหญ่ก็เป็นทอง
18K ที่ Finished ได้
ปัดเงาเล่นลายได้สวยงาม
ตัวเรือนขนาด 29.4X33.75
มม.
ไม่เล็กหรือใหญ่เกินไปนัก
เหมาะสำหรับ
การใช้เป็น Dress Watch
ออกงานหรูได้พอสมควร
แม้จะไม่เข้ากับหน้า
โทรมๆ
ของเจ้าของเท่าไร :P
สายหนัง
เส้นนี้เป็นสาย
ของแท้
ที่ทางบริษัทโทรคาเดโร
สั่งจากSwiss
มาเปลี่ยนให้พร้อมกับ
Pusher
ที่สั่งมาเปลี่ยนแทนของติดตัวเรือนเก่า
ที่เจ้าของเปลี่ยนสาย
แต่ไม่ได้ใช้สายของ
Original
ซึ่งพอทราบราคาของที่สั่งเข้ามา
จึงพอเข้าใจเหตุผลว่าทำไมเค้าถึงไม่ใช้
ของ Original
เพราะว่าสายหนังจระเข้สีดำเส้นนี้
ราคาลด20% แล้วเหลือ
8000 กว่า บวกกับราคา
Pusher ทอง18K
ที่ติดมากับสาย
ราคารวมกันแล้วหมื่นกว่าบาท
ตอนแรกกะจะสั่งหัวสาย(
Buckle) 18K
ใหม่มาพร้อมกันไปด้วยเลย
แต่พอทราบราคาเฉพาะ
Buckle ลด 40% แล้วเหลือ
สองถึงสามหมื่น
ดังนั้น
จึงขอเปลี่ยนแค่สาย
และ Pusher ส่วน Buckle เก่า
ซึ่งก็เป็น Original อยู่แล้วทนใช้ต่อไปก่อน
ล่ะกานนนน :P
สรุป สำหรับ
Vintage เรือนแรก
เรือนนี้ถูกใจและพอใจกับคุณภาพ
ความงาม
และราคาที่ได้มา
ไม่ถือว่า" ต ก ค ว า
ย " และยังคงเป็นนาฬิกา
Yellow Gold เรือนเดียวใน
Collection ผมด้วย :)