-=Jfk=- Hospital
(ชื่อรพ. Retouch เอาชื่อจริงออกนะครับ :P )

รพ.เอกชนขนาดเล็กในชุมชน ชนบท ระดับตำบล

หลายคนอาจจะมองว่าแปลกที่มีการลงทุนทำรพ.เอกชน ในชนบทระดับตำบล (อาจจะเป็นแห่งเดียว ของไทยหรือปล่าวก็ไม่รู้แฮะ :P )
ยอมรับว่าแปลก และอาจจะดูว่าไม่คุ้มค่ากับการลงทุนและลงแรง ในแง่ธุรกิจ ที่จะทำรพ.เอกชนในชนบท เนื่องจากข้อจำกัดหลายๆอย่างๆ เช่นค่าจ้างบุคลากร ที่ต้องจ้างแพงกว่า รพ.ในเมืองเนื่องจาก ความธุรกันดาร และเงียบ ขาดแสงสี ทำให้หลายคนไม่อยากมาอยู่ ต้องเพิ่มค่าตอบแทนสูง ขึ้น เพื่อสร้างแรงจูงใจ
ใน ขณะที่ ค่ารักษาพยาบาล ที่จะเก็บได้กลับจะน้อยกว่า รพ.ในเมืองเนื่องจาก ฐานะทางเศรษฐกิจของคนชนบท ต่ำกว่า คนเมือง
แต่ตอนที่เริ่มคิดทำเมื่อ 20 ปีที่แล้ว คิดแค่ว่า ถ้าจะขยาย คลินิค เดิมที่อยู่ในชนบท แห่งนี้ มาแล้ว 5 ปี ขึ้นมาทำเป็นรพ.เอกชน ขนาดเล็กๆ เพื่อเพิ่ม ขีดความสามารถในการดูแลประชาชนที่นี่เพิ่มขึ้น แล้วมันจะไปได้มั้ย ตอนนั้นคำนวนแล้ว คิดว่า น่าจะไปได้ แม้จะไม่ดีเท่ากับ การทำในเมืองใหญ่ จึงตัดสินใจ ทำ

กว่า 20 ปี ที่ผ่านมากับการทำงานที่นี่ ปั้นมา กับมือ ตั้งแต่เขียนแบบในกระดาษ ลงเสาเข็ม จนก่อตัวเป็น รพ.เอกชนเล็กๆขนาด 30 เตียง แม้จะมีอุปสรรคหลายๆอย่าง แต่ความน่ารักของประชาชนในชนบทเล็กๆระดับตำบลแห่งหนึ่งในภาคเหนือตอนล่าง ที่นี่ ก็ทำให้มีกำลังใจ ที่ฝ่าฟันมาจนถึงทุกวันนี้ และต่อไปในวันข้างหน้า ตราบที่ยังมีแรง ที่จะทำไหว แม้ในด้านธุรกิจ จะไม่ถือว่า สำเร็จมากมาย แค่พอเลี้ยงตัวได้ แต่ความสุขทางใจ ที่ได้รับ ไม่น้อยทีเดียว :)
ลองแวะมาเที่ยวรพ.เล็กๆ แห่งนี้ โดยไม่ต้องสนใจ กันว่า มัน ชื่ออะไร และ อยู่ที่ไหน กันมั้ยครับ :P

ทางเข้ารพ.ยามค่ำคืนเงียบสงบ (เงียบและมืดจริงๆ) เพิ่งได้ไฟแสงจันทร์ 40 ต้น ติดตั้ง จากปากทางถนนใหญ่ถึงโรงพยาบาลระยะทาง 1 กิโลเมตร ติดตั้งมาได้ ปีกว่าๆนี่เอง ทางนายกเทศมนตรี เทศบาลที่นี่ เค้าคงสงสาร ที่เห็นหมอ ที่นี่ ที่ซ้อมวิ่งกับปั่นจักรยานตอนกลางคืนแถวนี้ตอนดึกๆ มืดๆ มั้งเลยปรับถนน และติดตั้งไฟให้ :)

ตรงนี้ เป็นโถง รอตรวจคนไข้โอพีดี และ ห้องทำงานเภสัชกรและจ่ายยา (หลังเสา) ส่วนห้องที่ชั้นลอยประตู สีชมภูอมส้มน ั่นเป็น คลังเวชภันฑ์ สำรองอย่างที่บอก ที่นี่เปิดมาแล้ว กว่า 20 ปี ถือว่านานพอสมควร ตัวอาคารก็ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ได้ฤกษ์ปรับปรุงใหม่ปีนี้เอง ตัดสินใจเลือกใช้ โทนสีสรร สดใส ให้ดูสดชื่นลดความหดหู่ น่ากลัว ของโรงพยาบาลรูปแบบเดิมๆออกไป

ภาพบนซ้ายมือ คือห้องฉุกเฉิน (ER) ตรงกลางประตูที่เปิดไว้ เป็นห้องทำงาน และห้องแล็บ ของนักเทคนิคการแพทย์ ส่วนประตูอลูมิเนียมสีขาว ด้านลึกสุด ตามทางเดิน เป็นประตูชั้นนอกของห้องผ่าตัด ส่วนภาพล่างเป็นซีกของห้องตรวจ สองห้อง และ ห้องตรวจภายใน หนึ่งห้องกับ ห้องตรวจอัลตร้าซาวด์และคลื่นหัวใจอีกหนึ่งห้อง ส่วนลึกสุดที่เปิดประตูไว้สีดำ คือห้องเอ๊กซ์เรย์ ที่เป็นผนังคอนกรีต หนา 30 ซม.ประตูบุตะกั่วและ กระจกกันรังสี ตามมาตรฐานกรมวิทย์

เข้ามาดูห้องตรวจ หรือห้องทำงานผมนั่นแหละ โต๊ะทำงานด้านผม รกหน่อย :P :P เพราะว่านอกจากใช้ตรวจแล้ว ยังใช้โต๊ะด้านในทำงาน เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ด้วย ส่วนภาพล่างนั่นเป็นถ้วยรางวัล และเหรียญรางวัล จากการวิ่งและขี่จักรยาน รวมทั้งการแข่งขันไตรกีฬา เอามาไว้ที่นี่ เพราะคิดว่าการออกกำลังกายเป็นเรื่องดี น่าสนับสนุนให้คนออกกำลังกายกันเยอะๆ คนไข้ที่นี่เกือบทุกคนจะรู้กันว่า ผมนี่ บ้าออกกำลังกายมากกว่าทุกคนในตำบลนี้ และเป็นที่ปรึกษา เรื่องการออกกำลังกาย ของที่นี่ :P :P

มาดูฝั่งโต๊ะตรวจของน้องหมออายุรกรรม ที่อยู่ด้วยกันดีกว่า ฝั่งนี้ค่อยเรียบร้อยหน่อย ตามประสาโต๊ะทำงานของ ผู้หญิง

แอบพาเข้ามาดูห้องผ่าตัดด้วยเลย OR ของที่นี่ไม่ได้หรูหราเหมือนรพ.ใหญ่ๆ แต่สภาพ ที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว 15 ปี ยังถือว่าอยู่ในสภาพที่ดี ขนาดห้องผ่าตัดของที่นี่สถาปนิก ออกแบบไว้ ค่อนข้างกว้าง ( 5 X 6 เมตร) และ เพดานสูงเกือบ สี่เมตร ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดในการทำงาน

อันนี้ไม่ใช่ Slider หรือที่เล่น Skate บอร์ดนะ แต่เป็น Ramp หรือทางลาด ข้างตึก ที่ใช้ เป็นทางเข็นเปลคนไข้ ขึ้นตึก แทนลิฟต์ เนื่องจากเป็นอาคารที่สูง แค่สองชั้น ไม่มีกฏบังคับต้องใช้ลิฟต์ จึงใช้ Ramp นี้ มาช่วยแทน และ เนื่องจากออกแบบให้อยู่ด้านข้างของตึก แทนที่จะเอาไว้ในตัวอาคารเหมือนบางแห่ง ทำให้มีพื้นที่ ทางด้านความยาวไปกลับค่อนข้างมาก จึงไม่ชัน ไสเข็นคนไข้ได้ง่าย และใช้เป็นทางหนีไฟได้อีกทางด้วย

ส่วนนี้เป็นชั้นลอย จะเป็นห้องพิเศษชั้นสอง สี่ห้อง เน้น Concept สีสรรสดใส ไม่ให้หดหู่เช่นกัน ที่นี่ห้องพิเศษ จะไม่มาก มีห้องพิเศษเดี่ยว แค่หกห้อง เนื่องจากเหตุผลอย่างที่บอก คนไข้ไม่ได้มีฐานะร่ำรวยมากมาย ขนาดห้อง VIP มีแอร์ ทีวี ตู้เย็น เตียงเฝ้าไข้พร้อม ราคา 500 บาท(ถูกกว่าห้องโรงแรมธรรมดา) คนไข้ ยังเลือกพัก เตียงธรรมดา ราคา 100 บาท กันมากกว่า :P ส่วนฝั่งด้านที่กล้องตั้งอยู่ จะเป็นห้องพักเภสัชกร และ ห้องพักแพทย์เวร อยู่ด้านล่ะห้อง

โถงบันไดทุกชั้นเจาะช่องรับแสง และระบายอากาศ ช่วยลดการใช้ไฟฟ้าไปได้มากทีเดียว

ส่วนของเคาน์เตอร์การพยาบาล (Nurse Station ) พนักงานช่วยเหลือผู้ป่วย (Aid )ที่นี่ จะใช้ชุดสีชมพูอ่อน ตามรูปบน ส่วน พยาบาลวิชาชีพ (GN )ก็ใส่ Form พยาบาลปกติ สำหรับคนงาน ใช้ สีฟ้า แบ่งสีกันชัดเจน ไม่ให้คนไข้สับสน

ส่วนนี้เป็นห้องคนไข้รวม แยกสองฝั่ง รวม 24 เตียงภาพที่เห็นคงคล้ายๆ กับรพ.ชุมชนชองรัฐทั่วไป ไม่หรูหรา เหมือนกับ รพ.เอกชนในเมือง แต่นี่แหละคือ รูปแบบแท้ๆ ของคนในท้องถิ่น ที่เค้าเคยชิน และใช้บริการกันมกกว่าห้องพิเศษ หรูๆ

ภาพบนเป็นประตูเข้าสู่ห้องรอคลอด และ ทะลุ ต่อเข้าห้องคลอด ด้านในติดต่อกันไปเลย ส่วนภาพล่างเป็นห้องพิเศษอีกสองห้อง

บรรยากาศ ยามค่ำคืน ของที่นี่เงียบๆ จนหลายคนจ ะรู้สึกเหงา ตรงนี้เป็น ด้านข้างของตัวตึก ที่จะเจ้าไปยังลานจอดรถ ที่อยู่ด้านสุดไปทางขวามือของภาพ แต่กลางคืนรถน้อย จอดกับตามริมถนนได้ตามสบาย ส่วน ด้านหลังมองเห็นรั้วไกลๆ นั่นบ้านพักผม ห่างจากรพ. ยี่สิบเมตร ไม่ต้องห่วงเรื่องรถติดมาทำงานไม่ทัน ไว้เด๋วว่างๆ จะพาเที่ยวบ้านครับ :P

www.2jfk.com

มีข้อแนะนำ หรือ ข้อมูลเพิ่มเติมแนะนำได้ครับ

jfk@2jfk.com