Haley-Davidson FLSTC
Heritage Softail Classic 105th
Anniversary
You don't just own the road in a
saddle of a softail motorcycle
You own a part of motorcycle history . This one takes
you back to the glory days when riders weren't shy
about expressing their feeling in the form of paint ,tooled
leather and big expanse chrome. Only now the trip
comes with more comfort than anyone remember .The
smooth ,counterbalanced,rigid-mounted Big Twin and
hidden suspension make for a setup that sits you
right down in the machine
The timeless detachable winndshiled lead the ways
คุณไม่ได้แค่
เป็นเจ้าของถนน
ขณะที่อยู่บนอานของ
มอเตอร์ไซค์ Softail
แต่ว่าคุณ
ยังเป็นส่วนหนึ่ง
ของประวัติศาสตร์
ของมอเตอร์ไซค์
รถคันนี้
จะนำคุณกลับไปสู่ยุคอันรุ่งเรือง
ที่
นักขี่ทั้งหลายยังไม่มีการเขินอาย
ในการแสดงความรู้สึกของเค้า
ออกมาในรูปแบบของการ
แต่งรถด้วยการเพ้นท์สี
,ใช้เครื่องหนัง และ
ชุบโครเมียมแววอลังการ
เพียงแต่ว่า
ในปัจจุบันนี้
การขับขี่สบายขึ้นมาก
เกินกว่า
ที่ใครจะนึกได้
เครื่องยนต์ V Twin
ขนาดใหญ่
แบบยึดติดแน่น
ที่เดินเรียบ
สมดุลย์ และ
ช้อคอัพหลัง
ที่ซ่อนอยู่(มองไม่เห็น
)ช่วยให้
คนที่นั่งขี่เข้ากันได้
กับเครื่องยนต์
อย่างลงตัว
Heritage Softail 105th Aniversary
ตัวนี้ เป็นตัว Limited
ที่ออกมา ตามสไตล์
ของฮาร์เลย์ ที่
จะทำ Limited ออกมาทุก 5
ปี โดยรูปทรงทั่วไป
ยังคงเหมือนกับ ตัว
Heritage ตัวเก่า
ที่ผ่านมา
คือรูปทรงย้อนยุค
ไปเหมือน รถในยุค 40th
ของฮาร์เลย์
เหมือนกับ คำกล่าว
นิยาม
สำหรับรถรุ่นนี้
ข้างบนนั่นเอง
สำหรับสี ที่ ทาง HD
เลือกใช้ สำหรับ ตัว
Limited 105th Aniversary
ทุกตัวที่ออกมา
คือสี Copper Pearl & Vivid Black
หรือสีส้มมุก (ที่หลายคนมักเรียกว่าสีส้มทอง)
สลับกับสีดำมัน
ซึ่งบางคน ก็ว่าสวย
บางคน ก็ว่า
ขาดความดุดัน
ตามสไตล์
ฮาร์เลย์ไปหน่อย
กระจกบังลมหน้า
ขนาดใหญ่ ( King-size Lexan windshield
)ช่วยบังลม
ขณะขับขี่
ให้ขี่ได้สบายขณะเดินทางไกล
ลดแรงลมประทะคนขับได้ดี
ซึ่ง กระจกบังลมนี้
สามารถ
ถอดและใส่ได้ด้วยการปลดล้อค
ด้วยมือปล่าว
ไม่ยาก
โคมไฟหน้า
นอกจากโคมไฟใหญ่แล้ว
ยังมีโคมขนาดเล็กสองข้าง
ที่บางคนเรียกกันว่า
ไฟ มิกกี้เมาซ์(ดูคล้ายหูหนูมั้ง)
ซึ่งมีสวิทย์เปิดปิดแยกต่างหาก
อยู่ที่แผงคอนโซล
ถ้าสั่งเปิดไว้
ไฟทั้งสองจะติด
พร้อมกับไฟต่ำ
เมื่อ ติดเครื่อง
และจะตัดการทำงาน
ดับลง
ถ้าเปิดไฟหน้าเป็นไฟสูง
เบาะนั่ง
เป็นแบบสองที่นั่ง
ส่วนของคนซ้อนยกสูงกว่าคนขี่เล็กน้อยช่วยให้คนซ้อนมองข้ามไหล่คนขี่ได้สบายๆ
ใช้หนังสีดำ ตัดกับ
สีน้ำตาล
พร้อมหมุดโลหะ
ย้อนยุคไป
เหมือนอานม้าคาวบอย
Foot Rest สำหรับคนขี่
เป็นแป้นวางเท้าเต็มเท้า
พร้อมแผ่นยางรอง
ช่วยลดการสั่นสะเทือนของเท้าเวลาขับขี่
คันเกียร์
ใช้งานได้ทั้งการกดด้านหน้า
และงัดด้านหน้า
ตามปกติ หรือ จะใช้
การกดคันเกียร์ด้านหลัง
แทนการงัดก็ได้
ตามความถนัด
ของแต่ละคน รุ่นนี้
ติดเหล็กกันล้ม
ด้านหน้า มาให้
เป็นอุปกรณ์มาตรฐานเช่นกัน
กระเป๋า
หนังใส่สัมภาระ
หนังตอกหมุนโลหะแวววาว
พร้อม
คลิปที่ปลดล้อคเปิดฝาได้ง่าย
ซ่อนไว้ใต้เข็มขัดทรงคลาสิค
เหมือน รถในยุค 1940 (1940s
Style Leather Saddlebags with quick release buckle )
มีขนาดที่ใหญ่พอ
ที่จะใช้เก็บเสื้อผ้า
และของใช้
จำเป็นในการออกทริป
สั้นๆสำหรับสองคนได้สบายๆ
ด้านท้าย
จะเห็นกระเป๋าททั้งสองข้างสมดุล
ไม่ยื่นเลยเกินตัวรถมาก
จนเกะกะเกินไป
พนักพิงหลังสำหรับคนซ้อน
ช่วยให้คนซ้อนนั่งได้สบายๆ
สำหรับตัว 105 ปี นี้
ด้านหลัง ติด Logo 105 Yr
ไว้สวยงามเช่นกัน
พนักพิง นี้
ถ้าต้องการถอดออก
ก็ถอดออกได้
ด้วยการถอดสกรู
ไม่ยาก
มาดู
หน้าปัดไมล์กันมั่ง
ไมล์ ถูกติดตั้ง
บนถังน้ำมันเหมือนกับ
HD หลายๆรุ่น
ไมล์ติดรถมาให้
เป็นแบบ Analog
มีหน้าปัดบอกความเร็ว
ไม่มีวัดรอบ
แต่ถ้าใคร
ต้องการแบบมีวัดรอบ
พร้อมปรับแสงได้
ก็มีให้เลือกเปลี่ยนได้
ภายหลัง
ในการขับขี่
เมื่อเข้าเกียร์ว่าง
จะมี อักษร N
สีเขียวติดสว่างเหมือนรถทั่วไป
แต่เมื่อเข้าเกียร์
1-5 จะไม่มี
ไฟบอกตำแหน่งเกียร์
แต่เมื่อใช้จนถึงเกียร์สุดท้าย
หรือเกียร์ 6
นั่นแหละไฟ
บอกตำแหน่งเกียร์สุดท้าย
เป็นเลข 6 สีเขียว
จะติดขึ้น
บนหน้าปัดใกล้ตำแหน่ง
0 ไมล์
หน้าจอ LCD
นั่นทำหน้าที่เป็น
Multifunction Display เปลี่ยน Mode
โดยการกดปุ่มดำ
ด้านซ้ายของไมล์
ฟังชั่นต่างๆ
ได้แก่
บอก Range หรือระยะทาง
ที่น้ำมันในถังยังวิ่งได้ต่อ
กว่าจะหมดถัง
บอก เวลา เป็นนาฬิกา
ซึ่งตั้งให้บอกเป็น
รูปแบบ 12 หรือ 24 ชม.
ได้ตามชอบ
Odometer หรือ ระยะทางรวม
Trip Meter หรือ
ตัวจับระยะการเดินทาง
ซึ่ง Set ได้ และมีให้
ใช้ สองชุด (Trip A และ Ttip B
)
ฝาถังน้ำมัน
สองด้าน
ด้านซ้ายคือ
ฝาถังจริง
ส่วนด้านขวา
เป็นเกจ์น้ำมัน
บอกระดับน้ำมันในถัง
และ มีไฟเตือนที่หน้าปัด
ถ้าน้ำมันเริ่มต่ำลง
ถึงระดับน้ำมันสำรอง
ปุ่มเงาสีเงินนั่น
คือปุ่มบิด
เปิดสวิทย์ จ่ายไฟ
สตาร์ทเครื่อง
ด้านล่างฝา
เป็นกุญแจไขเพื่อเปิดปิดสวิทย์
ให้บิดได้ หรือ
ล้อคไม่ให้บิดเปิด
ก็ได้
เหนือสวิทย์เปิดปิดกุญแจ
มีป้ายบอก เลข Limited
ประจำรถ คันนี้
เป็นคันที่ 2601 จาก5000
คันทั่วโลก
สำหรับรุ่นนี้
Logo 105 ปี
บนถังน้ำมันสวย งาม
เครื่อง
และท่อไอเสีย
เงาแวววาว ด้วย Stainless
และ การชุบโครเมี่ยม
ชั้นดี
ตามสไตล์ฮาร์เลย์
ที่มีอายุใช้งาน
ยาวนานทนทาน
กระจกมองหลัง
ได้เลือกเปลี่ยนมาเป็น
กระจกทรงหยดน้ำลายกระโหลก
ลายโปรดส่วนตัว :P
สำหรับล้อ
ของ รุ่นนี้
เนื่องจากเน้น
ไสตล์คลาสสิค
จึงเลือกใช้
ล้อซี่ลวด
ซึ่งต้องใช้ ยาง
ที่มียางใน ไม่เหมือนกับ
พวกล้อแม็ก ที่ใช้
ยาง Tubelessได้
ความรู้สึกจากการขับขี่
Heritage Softail ตัวนี้
ที่เลือกมาใช้ แทน
Street Bob ตัวเก่า
เนื่องจากต้องการรถ
แนว Cruiser ที่เอาไว้ใช้เดินทางท่องเที่ยว
แบบสบายๆ
เลยอยากได้ รถที่มี
กระเป๋า Windshild
ป้องกันลม และ
พนักพิงหลังให้คนซ้อนนั่งสบายๆ
ระหว่างเดินทาง
ครั้นจะเอา Street Bob
รถสไตล์จิ๊กโก๋ ไป
ติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ
เหล่านั้น
ก็จะกลายเป็นแปลกไป
เลยตัดสินใจเปลี่ยนมาเป็นตัวนี้
ส่วนถ้าอยากออกแนวจิ๊กโก๋
ก็ค่อยใช้ ตัว Custom Bike
Blue Larry จาก Indian Larry
แทนดีกว่า
ตัวรถค่อนข้างหนัก
คือ
น้ำหนักรวมประมาณ 340
กก.หนักกว่า Street Bob
ถึงประมาณ มากกว่า 50
Kg
ซึ่งสำหรับคนตัวเล็กอย่างผม
การเข็นถอยหลัง
เวลาจอดนี่
หนักเอาการ
เลยตัดสินใจ
สั่งเกียร์ถอยหลัง
ของ Champion จาก USA
ที่เค้าทำไว้ให้กับพวก
Side Car หรื อ Tricylce ของ
ฮาร์เลย์ มาติดตั้งให้สะดวกในการถอยหลังขึ้น
สำหรับการขับขี่เมื่อออกตัวไปแล้ว
รถมั่นคงควบคุมได้ง่าย
การเดินทางไกล
ด้วยความเร็วระดับ
120 กม.
ชั่วโมงให้ความรู้สึกผ่อนคลาย
ไม่เหนื่อย
ไม่เมื่อย
และไม่เครียด
แม้จะเพิ่มความเร็วไปถึงระดับ
140-150 กม.ชั่วโมง
ก็ยังรู้สึกควบคุมได้
อย่างมั่นคง
ยกเว้นเบรค
ที่ระยะเบรคยาว
หยุดได้ไม่ดีนัก
ตามสไตล์ ฮาร์เลย์
ที่น้ำหนักรถมาก
ต้องเผื่อระยะเบรคมากพอสมควร
ระบบการกระเทือนต้องถือว่าสุดยอด
วิ่งผ่านรอยต่อถนน
และผิวถนนขรุขระ
แม้แต่หลุมขนมครกที่ไม่ใหญ่มากผ่านไปนิ่มๆ
แบบไม่รู้สึก เลย
เรียกว่า นิ่มกว่า
รถยนต์ทุกคันที่ผมใช้อยู่
บนคนขับนุ่มพอดี
นั่งสบาย ขี่
สองร้อย
กิโลติดต่อกัน
ไม่มีอาการเมื่อยชาก้น
สำหรับคนซ้อน
เนื่องจากมีพนักพิงหลัง
ช่วยให้นั่งสบายไม่เกร็งมากแต่เบาะส่วนคนซ้อนดูเหมือนแข็งกว่าคนขี่เล็กน้อยทำให้
นั่งไกลๆ
ถ้ากระแทกบ่อยๆ
แฟนผมบ่นเจ็บก้นนิดๆ
คือประมาณ
ว่าไม่ได้ นั่งสบายเหมือนนั่งโซฟา
ในบ้าน
แต่ว่าสบายกว่าซ้อนมอร์เตอร์ไซค์คันอื่นๆ
นั่นแหละ
เครื่องยนต์
ขนาดใหญ่ 1580 ซีซี กับ
เกียร์ 6 เกียร์
ให้กำลังเหลือเฟือ
เวลาขับขี่
แม้ความเร็วจะขึ้นไปถึง
ระดับ 100 แล้ว ยังใช้
เกียร์ 4 ได้สบายๆ
กว่าจะไล่ขึ้นไป
ใช้ได้ถึงเกียร์ 6
ความเร็วก็จะทะลุไปเกิน
120 กม./ ชั่วโมงแล้ว
อัตราการสิ้นเปลือง
เพิ่งทดลองจับได้
ไม่มาก
แต่เท่าที่สังเกตุ
การเดินทางไกล
ด้วยความเร็วประมาณ
120-140 กม./ชม.กินประมาณ 20
กม./ลิตร
ซึ่งถือว่าไม่มากนัก
เมื่อเทียบกับ
ขนาดและกำลังเครื่องยนต์
ตอนนี้
นอกจากรอเกียร์ถอยหลัง
ซึ่งสั่งมาติดตั้ง
ก็เหลือ
รอให้ผ่านการตรวจ
มาตรฐาน สมอ.
เพื่อจดทะเบียน
แล้ว ก็คงจะนำไป
เปลี่ยนท่อ เป็น Vance
& Hine Big Radius
ที่รูปทรงสวย
และเสียงดุดัน ลดการอั้นของไอเสีย
และเปลี่ยนกรองอากาศ
เป็น High Flow
และในส่วนการควบคุมน้ำมันใหม่
อาจจะใช้ Fuel Pack หรือ Power
Command ช่วยจัดการ
ปรับแต่งน้ำมันให้
พร้อมติด Oil Cooler
ลดความร้อนให้กับเครื่องยนต์
ไว้เสร็จแล้ว
ค่อยรีวิว กันอีกที
Update
หลังตกแต่งเพิ่ม
หลังจากใช้มาระยะนึง
เลยจัดการตกแต่งเพิ่ม
เติมเข้าไป
ท่อแต่ง
ของ Vance & Hine
รุ่นยอดนิยม Big Radius
เสียงหนักแน่น
พร้อมกับ
ใส่กล่องแต่ง Power Comand
จูนระบบไฟ
ให้เครื่องยนต์เดินเรียบ
ปลอกแฮนด์
และ ที่ปิดปลายแฮนด์
ลายกระโหลก มือเบรค
และคลัช ลายกระโหลก
แม้แต่กระจกส่องหลัง
หยดน้ำ ก็ลายกระโหลก
กันล้มด้านหลังติดเพิ่ม
พร้อม Kit แต่งเพิ่ม
เพื่อยึด
แป้นรองเท้า
คนซ้อนให้เป็นแบบแป้นเหยียบพร้อมยางรองกันสั่นแทน
Foot Pegเดิม
ทำให้ลดการชา
และเมื่อยเท้าและขาเวลาเดินทางไกล
ของคนซ้อน แน่นอน
เพิ่มฝาปิดกระโหลกไปด้วย
ฝาครอบ Primary
เปลี่ยนใช้
ลายกระโหลก
กันล้ม
หลังนี่เสริมกับกันล้มหน้า
แล้วเวิร์คมากๆ
เวลาเลี้ยววงแคบในเมืองรถพับลงไป
สองตัวนี้ช่วยกัน
ทำหน้าที่เหมือนขาตั้งดีๆ
ไม่ต้องกลัวล้มเป็นรอยเลย
ขาเกียร์ ทั้งหน้า
และหลัง เปลี่ยนใช้
ชุดแต่งลายฉลุ ของ HD
แท้ และแน่นอน Peg
ของมัน เปลี่ยนเป็นลายกระโหลก
รับกับยาง
รองแป้นเหยียบ
ลายกระโหลกเช่นกัน
ขาโยงเกียร์
ก็เปลี่ยนใช้
ลายกระโหลก (แอบมองไปที่
ชายบังโคลนหน้า
ก็เปลี่ยนโครม
ปิดปลายเป็นลายกระโหลกเช่นกัน
อิๆ)
อีกฝั่ง
ฝาครอบกรองอากาศ
ก็ใส่ลายกระโหลก
รวมทั้งแป้นเบรคลายกระโหลก
เช่นกัน เรียกว่า
ตรงไหนมีครอบกระโหลก
ให้ใส่
ใส่ให้ครบทุกเม็ด
รวมทั้ง
ครอบดุมล้อหน้าทั้งสองข้างด้วย
อ้อ
อะไหล่ทุกชิ้นที่เปลี่ยนใช้
HD เบิกห้าง ยกเว้น
ขาเบรคที่เห็น
เจาะรู อันนั้น DIY
เจาะเอง และ ส่งชุบโครม
เอง
ประหยัดไปเกือบหมื่น
อิๆ
สังเกตุคันเกียร์
ปุ่มดำที่เห็น
เป็นชุดเกียร์ถอยหลังของ
Champion
บริษัทผลิตเกียร์ถอยหลังใช้กับ
Trike และ Side Car ของ HD
ใช้งานง่ายสะดวก
ช่วยให้ถอยหลังเข้าออก
ตอนจอด
และออกตัวได้สบาย
ไม่เหนื่อยแรง
พวกสกรูครอบเครื่อง
และ ฝาสูบ ตลอดจน
ประกับแฮนด์
จัดครอบด้วยฝาโครเมียม
ทุกเม็ดเพิ่มความสวยงามเรียบร้อย
Oil
Cooler ติดตั้งเพิ่ม
เพื่อช่วยลดความร้อนให้กับเครื่องยนต์
(แอบโชว์
ขาเบรคเจาะรู DIY ด้วย
อิๆ)
ตะแกรงท้าย HD
เบิกห้าง
ติดตั้งไว้
สำหรับบรรทุกสัมภาระเพิ่มเวลาเดินทางสวยลงตัว
เข้ากันได้ดีกับ
พนักพิงพร้อมโลโก้
105 ปี
ครอบไฟท้ายลายกระโหลก
อีกแล้น อิๆ
พร้อมทั้งไฟเลี้ยวท้ายแต่ง
สี smoke
เพิ่มเติมกระโหลกอื่นๆ
รวมทั้ง Foot Pegพร้อม Adaptor
พักเท้าที่กันล้มหน้าช่วยลดการเมื่อยล้าเวลาเดินทางไกล
ความรู้สึกในการขับขี่หลังปรับแต่ง
รถหลังแต่ง
เสียงดังหนักแน่น
ตามไสตล์ท่อ ของ Vance
ความร้อนเครื่องยนต์ลดลง
วิ่งทางไกลระดับ 100-200
โล
รวดเดียวไม่มีปัญหา
และ ออกทริปยาว
ระดับ 1000 โล
ก็ไม่เหนื่อย
เลยขี่สบายๆ
คนซ้อนนั่งสบายขึ้น
จากแป้นรองเท้า
พร้อมยางกันสั่นที่ติดตั้งเพิ่ม
แถม ตัวกันล้มหลัง
ยังใช้ เป็นมือจับสำหรับคนซ้อนได้อีกด้วย
เกียร์ถอยหลังใช้งานได้ดี
สะดวกผ่อนแรง
แถมเท่ห์อีกต่างหาก
อิๆ
Haley-Davidson FLSTC Heritage
Softail Classic 105th Anniversary Specification
Engine V Twin Cam 2 Cylinder
Capacitty 1580 CC (96 Cu inch) Electronic Fuel
Injection , Air Cooler
Diamention
---Length 240 CM
---Dry Weight 329 kg ( Weight Running Order (341
kg)
---Seat Height ----Laden 64.8 CM.
----------------------Unladen 69.6 CM.
---Ground Clearance 13 CM.
Fuel Capacitty 5 USgallon 18.92 L (Gassoline
95 or 91 )
Oil Capacity 3 qt (2839.2 cc )
Transmission 6 Speeds Gear
Box Final drive = Cabon Fiber Belt
Brake System Front Disc Brake with 4 pistons ,Rear Disc Brake
with 2 pistons
Tyre Front MT90B16 72H
Pressure 32-34 PSI
Tyre Rear 150/80 B -16 71 H Pressure 34-36 PSI
|