-=Jfk=- Cyber Clinic
การปลูกย้ายเซลรากผม
Hair Transplant

ปัญหาผมร่วง และศรีษะล้าน เป็นปัญหาใหญ่อย่างหนึ่ง ที่พบบ่อยในเพศชาย ที่ย่างเข้าวัยกลางคนแล้ว หลายคนประสบกับตัวเอง สาเหตุ มีหลายอย่าง ซึ่งมีการรักษา แตกต่างกันไป บางปัญหา สามารถ แก้ไขด้วยการใช้ยา ทั้งยากินและยาทา และการรักษาสาเหตุของโรคนั้น เท่าที่จะทำได้

ยาที่ใช้ในการรักษาผมร่วงศรีษะล้าน ยาที่ใช้ได้ผลในการป้องกันการหลุดร่วงและกระตุ้นการเกิดการสร้างรากผมใหม่ทำให้แก้ปัญหาผมร่วงศรีษะล้าน เท่าที่ใช้กันและยอมรับว่าได้ผลในปัจจุบันก็ได้แก่
..........Minoxidil ยาตัวนี้เดิมเป็นยาลดความดันโลหิต แต่พบว่าผลข้างเคียงอันนึงคือทำให้มีขนขึ้นตามที่ต่างๆได้มาก รวมทั้งเส้นผมดกดำขึ้นด้วย กลไกการออกฤทธิ์ ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่บางคนคิดว่า เกิดจากฤทธิ์ในการขยายหลอดเลือดทำให้มีเลือดไปเลี้ยงเซลรากผมมากขึ้น ยานี้มีผลข้างเคียงอยู่บ้างเช่น ทำให้ความดันโลหิตต่ำหน้ามืดเป็นลมได้ และ บางคนมีอาการบวม หลังกินยา และมีขนขึ้นผิดปกติ ในที่ที่ไม่ต้องการด้วย และเมื่อหยุดยา ผมก็จะร่วงกลับเหมือนเดิม (ร่วงเร็วซะด้วย) ปัจจุบัน จึงไม่ค่อยนิยมใช้ในรูปยากิน แต่ยังคงมีการใช้ในรูป ของLotion 3-5 % ทาหนังศีรษะ กัน อยู่โดยใช้เดี่ยวๆหรือร่วมไปกับยาอื่น
.........Finasteride เป็นยาใหม่ที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบัน เป็นยาออกฤทธิ์ ต้านฮอร์โมนเพศชาย เดิมเป็นยารักษาอาการต่อมลูกหมากโต แต่พบว่า ช่วยป้องกันผมร่วงและ รักษาศรีษะล้าน จากอิทธิพลของฮอร์โมนเพศชายได้ โดยขนาดที่ใช้ใช้ขนาดต่ำมากแค่ 1 mg ต่อวัน ได้ผลค่อนข้างดีพอสมควร ยานี้ห้ามใช้ในสตรี หรือ ชายที่ ยังปล่อยให้ภรรยามีบุตร เพราะว่าอาจจะทำให้บุตรที่เกิดมาขณะบิดาใช้ยามีความผิดปกติ ได้ และผลข้างเคียงอีกอย่างของยานี้ก็คือ อาจจะทำให้ความรู้สึกทางเพศลดลง แต่พบน้อย ไม่ถึง 2% และมักเป็นแค่ชั่วคราวเมื่อหยุดใช้ยาก็หายเป็นปกติ ยานี้ปัจจุบันนิยมใช้ ร่วมกับ Minoxidil lotion ช่วยรักษาและป้องกันผมร่วงศรีษะล้านได้ดี แต่ควรใช้ภายใต้การดูแลและแนะนำของแพทย์

แต่ศรีษะล้านบางสาเหตุการใช้ยาก็ไม่ได้ผล ซึ่งทางเลือกในสมัยก่อน อาจจะเป็นการ ใช้วิกผม แต่ในปัจจุบัน เทคนิคที่ได้รับการนำมาใช้มีหลายอย่าง นอกเหนือจากการ ใช้วิกผมธรรมดา แล้ว ก็ยังมี

การใช้วิกผมแบบติดแน่น วิธีนี้คือการใช้เส้นผมจริง หรือ เส้นผมสังเคราะห์ที่เหมือนกับผมเจ้าของมายึดติดกับ แผ่นยางสีเดียวกับหนังศรีษะ และนำไปแปะติดกับหนังศรีษะ ส่วนที่ล้านไม่มีผม เป็นจุดๆ วิธีนี้ทำให้คนที่ใช้วิกแบบนี้สามารถสระผมหรือมีกิจกรรม ต่างๆเช่นว่ายน้ำเสยผม ได้ตามปกติ ตัดผมได้ตามปกติ แต่ยังคงต้องมีการปรับเปลี่ยนเป็นระยะ

การทอผม ช่างทอผมจะเอาผมเทียมมาผูกติดกับโคนผมเดิม โดยอาจจะผูกตั้งแต่ หนึ่ง ถึง สามเส้น ต่อรากผมเดิมหนึ่งเส้น ทำให้ผมเพิ่มจำนวนขึ้น ดูหนาขึ้น คล้ายผมจริง มีกิจกรรม ต่างๆ ได้เหมือนคนปกติ แต่พวกนี้เวลาผมมันยาวขึ้น ผมที่ผูกไว้มันจะลอยห่างจากหนังศรีษะตามขึ้นมาด้วย เวลาจะตัดผมแต่ละเดือน(ที่ผมคนยาวประมาณ หนึ่งถึงสองเซ็นต์ ) ก็จะต้องไปให้ ช่างพิเศษ จัดการรูดปมที่ผูกให้มันลงไปแนบติดหนังศรีษะตามเดิม ก่อนที่จะตัดเฉพาะผมจริงที่ยาวเกินออกมาออกไป ซึ่งตรงนี้ ค่อนข้างยุ่งยากหน่อย และก็จะมีค่าใข้จ่ายประจำอีกราวๆเดือนละ สองพันบาท และต้องทำตลอดไป

และปัจจุบันมีอีกทางเลือกหนึ่งที่เริ่มได้รับนิยมมากขึ้นตามลำดับคือการทำ ศัลยกรรมปลูกย้ายเซลรากผม หรือ Hair Transplant

การปลูกย้าย เซลรากผม (Hair Transplant)

เป็นการทำศัลกรรม(ผ่าตัด)ชนิดหนึ่ง โดยส่วนใหญ่จะเลือกทำในคนวัยกลางคนซึ่งผมส่วนหน้าผากมักจะร่น(ล้าน) (จากอิทธิพลของฮอร์โมนเพศชาย) จนอยู่ตัวแล้ว ไม่ล้านเพิ่มมากอีกแล้ว จึงจะทำการปลูกย้ายเซลรากผม

หลักการ หมอจะเลือกผมส่วนที่มีเซลรากผมทนต่อการหลุดร่วงมากที่สุด คือผมส่วนท้ายทอย นำมาปลูก บริเวณที่ไม่มีผมหรือผมบาง ซึ่งหลังปลูกแล้ว ผมจะคงอยู่ถาวรตลอดไปไม่ร่วงล้านอีก (แต่มีการผลัดเปลี่ยนหลุดร่วง และงอกใหม่ตามอายุของเส้นผมตามปกติ )
ปกติผมคนเรา จะมีความหนาแน่นของรูขุมขนต่อพื้นที่หนังศรีษะต่างๆกันออกไป โดยเฉลี่ยคนไทยจะมี ความหนาแน่นของรากผม ประมาณ 60-80 รากต่อ หนึ่งตร.เซ็นติเมตร ถ้าผมมีความหนาแน่นประมาณ 50-60 รากต่อหนึ่ง ตร.ซมก็ถือว่าามีความหนาแน่นพอรับได้ ไม่ดูว่าศรีษะล้าน หรือ ผมบาง ดังนั้นถ้าพื้นที่ ที่จะต้องปลูกนั้น ถ้าไม่มีผมเลยปกติ หมอก็มักจะปลูกให้มีเซลรากผมประมาณ 50-60 กร๊าฟ ต่อตรซม. ซึ่งอาจจะแบ่งปลูกประมาณ สองถึง สามครั้งจนแน่นพอ(ครั้งละ 20-30 กร๊าฟต่อหนึ่งตร.ซม.)
และในแต่ละรูขุมขนหรือ หนึ่งรากผม จะมีจำนวนเส้นผม ต่างกันไปตั้งแต่ 1-4 เส้นต่อราก (คนไทยจะเฉลี่ยอยู่ประมาณ 2 เส้นกว่าๆ ต่อราก)
การปลูกแต่ละครั้ง ก็จะทำประมาณ 500-1000 กร๊าฟ ระยะเวลาที่ใช้ทำ 3-6 ชม.แล้วแต่จำนวนกร๊าฟที่ทำว่ามากน้อยแค่ไหน
จำนวนครั้งที่จะต้องทำกี่ครั้งก็แล้วแต่ปริมาณพื้นที่ที่ทำ ว่ามีมากน้อยแค่ไหน และต้องการแทรกให้แน่นแค่ไหน

เทคนิคการปลูก
วิธีที่นิยมกันในปัจจุบัน และได้ผลดี คือการปลูกโดยใช้เทคนิค ของ Dr,Strouse
ขั้นตอนแรก หมอจะตัดผมเฉพาะบริเวณส่วนท้ายทอยส่วนที่ต้องการใช้ให้สั้นเกือบติดหนังศรีษะ ก่อนที่จะสระผม แล้วเตรียมผ่าตัด
ขั้นตอนที่สองหมอจะตัดเอาหนังศรีษะจากตรงท้ายทอยที่เตรียมไว้ออกมา โดยตัดเป็นแถบยาวกว้างประมาณ หนึ่งเซ็นต์ ความยาวแล้วแต่ประมาณที่ต้องการใช้(อาจจะยาวถึงสิบเซ็นต์กว่าๆได้ถ้าต้องใช้เซลรากผมเยอะ) แล้วเย็บปิดแผล โดยขั้นตอนนี้หมอจะฉีดยาสลบอ่อนให้หลับ และ ฉีดยาชา ก่อนจะตัดหนังพร้อมกับเส้นผมที่ว่าออกมา และเย็บปิดแผลเสร็จโดยใช้เวลาประมาณครึ่งชม.
ขั้นตอนที่สาม หมอจะนำหนังที่ตัดออกมา(Doner) มาตัดแบ่งแยกเอาเซลรากผมออกมาเป็นเซลๆ โดยใช้กล้องขยายช่วยตัดแบ่ง โดยตัดหนังศรีษะส่วนเกินทิ้งเหลือไว้แต่ตัวผมติดกับเซลรากผม ออกมาเป็นอันๆ แล้วแช่ในน้ำแข็ง เตรียมนำไปปลูก ขั้นตอนนี้คนไข้จะนอนพักรอ ประมาณ ชม.ถึง ชม.กว่าๆแล้วแต่จำนวนเซลรากผมที่ต้องหั่นแบ่ง
ขั้นตอนที่สี่ ทำการปลูกเซลรากผมลงบริเวณที่จะปลูก หมอจะฉีดยาชาบริเวณที่จะปลูกและใช้เข็มปักนำทางก่อนใช้เหล็กขยายรูหนังศรีษะ(Dilator) ปักตามลงไปจนครบตามจำนวนที่จะปลูก(จะคล้ายปักเข็มหมุดลงไปบนหมอนปักเข็ม) เมื่อตอนจะปลูกก็จะถอนDilator ที่ว่านี้ออกก็จะมีรอยรูเล็กๆที่หนังศรีษะตรงนั้น แล้วเอาเซลรากผมที่หั่นเตรียมไว้ ใส่ไปในรูดังกล่าว ซึ่งหนังศรีษะก็จะกระชับหนีบเซลรากผมไว้พอดีไม่ต้องเย็บ ขั้นตอนนี้อาจจะต้องใช้คนช่วยกันใส่สามถึงสี่คน เนื่องจากถ้าใช้เวลานานไป รากผมที่เตรียมไว้อาจจะตายและไม่ติดได้ง่าย ขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณ 1-3 ชม.แล้วแต่จำนวนกร๊าฟ ที่ปลูก

หลังปลูกเสร็จอาจจะมีเลือดซึมได้เล็กน้อยใช้ผ้าสะอาดซับเบาๆได้

ยี่สิบสี่ชม.แรกหลังปลูก ห้ามก้มศรีษะเพราะว่าอาจจะทำให้มีเลือดซึมออกมาตามรอยที่ปลูก และจะทำให้กร๊าฟหลุดออกมาได้ และงดสระผมสองวัน หลังจากนั้นก็เริ่มสระผมได้เบาๆ เพื่อให้สะเก็ดเลือดที่เกาะติดโคนผมหลุดออกไป

ช่วงวันที่ 2-7 วันแรก จะมีอาการบวมตามหน้าและหนังตามาก ทำให้รำคาญหน่อยแต่ไม่อันตราย บางคนอาจจะบวมมากจนหนังตาสองข้างปิดได้ ถ้าบวมมากอาจจะใช้น้ำแข็งประคบช่วยลดบวมได้ ซึ่งการบวมจะมากน้อยขึ้นกับปริมาณจำนวนกร๊าฟที่ปลูกด้วย ถ้าปลูกมากก็บวมมาก

หลังทำการปลูก เมื่อผ่าน สองสัปดาห์ไปแล้ว กร๊าฟมันจะ ติดหมดแล้วอาจจะรู้สึกได้ว่าผมที่ปลูกไว้ยาวเพิ่มขึ้นประมาณ 3-4 มม.และจะยาวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึงประมาณ หนึ่งเซ้นต์ ในหนึ่งเดือน หลังจากพ้นเดือนแรกไปแล้ว ผมส่วนที่ปลูกมา จะค่อยๆหลุดร่วงออกไป แต่ไม่ต้องกังวลเป็นการผลัดเปลี่ยนตามปกติ ซึ่งอีกประมาณหนึ่งเดือนถัดมา(ประมาณเดือนที่สองหลังปลูก) ผมจะค่อยๆแทงงอกขึ้นมาใหม่ และจะค่อยๆ ยาวขึ้น และหนาแข็งแรงขึ้นเรื่อยเหมือนผมปกติ และจะแข็งแรงเต็มที่ภายในประมาณหกเดือน

ถ้าต้องการปลูกแทรกครั้งต่อๆไป ก็จะทำแต่ละครั้ง ห่างกันประมาณ หกเดือน จนได้ผลลัพท์ที่พอใจ หรือเหมาะสม ก็หยุด

ค่าใช้จ่ายในปัจจุบัน ส่วนใหญ่จะคิดกันตามจำนวนกร๊าฟ ที่ปลูก โดยอยู่ ที่ประมาณ 60-100 บาทไปจนถึง 150 บาทต่อกร๊าฟ แล้วแต่หมอ และ รพ.ที่ทำ
หนึ่งกร๊าฟ ก็หรือหนึ่งกอ หรือ หนึ่งเซลรากผม จะมีจำนวนเส้นผมต่างกันไป ประมาณ 1-4 เส้น คนไทยเราเฉลี่ยมี ประมาณสองเส้นกว่าๆ ต่อกร๊าฟ ถ้าปลูกครั้งละ 500-1000 กร๊าฟ ก็จะตกประมาณ 30,000 -60,000 ไปจนถึง หลักแสนเหมือนกัน
ผลการปลูกส่วนใหญ่ กร๊าฟที่ปลูกจะติดได้ผลดี (Take) มากกว่า 95% ของจำนวนที่ทำการปลูกขึ้นไป

ตัวอย่างภาพการปลูกผม

ภาพแรกนี้เป็นรอยแผลเย็บของแผลส่วนที่ตัดเนื้อจากท้ายทอยมาใช้ซอยแยกปลูก
(เป็นภาพแทนจาก ใน Internetในภาพขนาดที่ตัด ยาว12-13 ซมได้กร๊าฟราวๆ 1500กร๊าฟ)

แผลตรงนี้รอยเย็บจะปิดสนิท และผมจะบังมองไม่เห็นตั้งแต่วันแรกๆที่ผ่าตัด และ ครบสองสัปดาห์ ก็ตัดไหมได้เลย หรือถ้าเป็นไหมละลายก็อาจจะไม่ต้องตัด ถ้าทำผ่าตัดครั้งที่สอง หรือ 3 ก็จะตัดข้างๆกันซ้อนกัน ซึ่งผมบังได้มิดเช่นกัน

ตัวอย่างรูป คนไข้ที่ปลูกผม


ภาพก่อนทำการผ่าตัด ด้านหน้าผากมีรอยเถิกร่นลึกจากหน้าผากเข้าไปราวๆ 3นิ้ว

ภาพด้านบนกลางศรีษะมีผมบางและเส้นผมเล็กไม่แข็งแรง

Caseนี้ ทำการผ่าตัดปลูกผมเสริม รวมสองครั้ง
ครั้งแรกปลูกเสริมตรง ส่วนหน้าผากที่ไม่มีผมเลย จำนวนประมาณ 800 กร๊าฟ

รูปนี้เป็นภาพผมที่ขึ้นมาจากการปลูกครั้งแรก ประมาณหกเดือน
( ขออภัยภาพตอนผ่าตัดครั้งแรกหายไปจากแฟ้ม ถ้าหาเจอจะเอามาแปะเพิ่มให้ครับ)

ระยะนี้ผมที่ปลูกมาได้หลุดไปหมดแล้ว และมีผมใหม่ที่เติบโตจากรากผมที่ปลูกใหม่ขึ้นมาแทนตรงเนื้อที่ที่เคยเป็นที่ว่างเก่า แต่ยังไม่หนาแน่นพอ

ครั้งที่ สองปลูกแทรกตรงหน้าผากเพิ่มความหนาแน่นอีกประมาณ 600-700 กร๊าฟ
และเสริมตรงส่วนที่บางกลางศรีษะ อีก พันกว่ากร๊าฟ รวม 1600 กว่ากร๊าฟ

รูปนี้เป็นรอยปลูกแซมด้านหน้าผาก จากการปลูกครั้งที่สอง
จุดที่ปลูกจะสังเกตุเห็นเป็นรอยจุดเลือดแห้งตามรอยปลูกเป็นจุดๆ ถ่ายวันที่ 3หลังปลูก

ภาพนี้เป็นส่วนกลางศรีษะที่บางก่อนปลูก

สังเกตุว่าบางส่วนไม่มีผม บางส่วนผมบางเส้นเล็กไม่แข็งแรงทำให้ดูผมบางมาก

ภาพนี้เป็นภาพหลังการปลูกเสริมตรงส่วนกลางศรีษะ จากการปลูกครั้งที่สอง
(ครั้งแรกไม่ได้ทำการปลูกที่บริเวณนี้)

ตอนนี้เพิ่งอายุได้ สี่เดือน ผมตอนนี้ยังเส้นเล็กและสั้น และไม่หนามาก ทำให้ยังดูบางเล็กน้อย แต่ก็หนาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกๆวัน ภาพนี้หวีปัดผมส่วนอื่นออกไป ถ้าหวีผมส่วนอื่นมาเสริมก็จะดูหนาเพิ่มขึ้น

อันนี้เป็นภาพด้านหน้าหลังการปลูก ครั้งสองแล้ว ครบ 6 เดือน

จะเห็นว่าความหนาของเส้นผมเพียงพอแล้ว รอยเถิกด้านหน้าหายหมดไป ตีนผมขยับมาเสมอกับผมเดิมตรงกลาง


เอาภาพก่อนทำข้างบนมาเทียบให้ดูใกล้ๆกันอีกครั้ง

มีปัญหาเพิ่มเติม เมลล์มาคุยกันได้ ครับ

jfk@2jfk.com

Back to -=Jfk=- Cyber Clinic

www.2jfk.com