-=Jfk=-

Watch Collection

Festina Dual Time Automatic

Festina Dual Time ยักษ์ใหญ่จาก Cannada

เรือนนี้ได้มาจากน้องในบอร์ด มีข้อมูลมันไม่มาก ทราบแต่ว่า เป็น Brand ที่มีบริษัท ในแคนนาดา และมีศูนย์บริการใหญ่ ใน USA ที่สอยมาเพราะว่าชอบในขนาดใหญ่ ดีไซน์ สวย และ งานเรียบร้อยใช้ได้ ก็เลยเสร็จมัน :P

กล่องเป็นกล่องกระดาษ หุ้มหนังไม่ได้หรูหราอะไรมากมาย (ก็ราคาแค่ หลักหมื่นต้นๆ คงหรูมากไม่ไหว :P)

กล่องใน บุกำมะหยี่สีเดียวกับกล่องนอก พร้อมหมอนรองนาฬิกา เรียกว่า เป็นกล่องแบบประหยัด ประมาณระดับเดียวกับนาฬิกาญี่ปุ่นราคาถูกทั่วไปแหละ :)

ตัวนี้ เป็นนาฬิกาที่ขนาดค่อนข้างใหญ่ วัดDiameter เฉาะตัวเรือนได้ 46 mm ถ้ารวม เม็ดมะยมด้วย ก็ 48 มม. ถ้าวัด Diameter ที่ Bazel =43.5 มม. ขนาดโดยรวม ใหญ่กว่า Panerai ขนาดมาตรฐาน 44 มม.ซะอีก เฉพาะกระจกหน้าปัด diameter 34 มม. ความหนา 14.5 มม. ขนาดของหู สาย 24 มม.เท่ากับ Pam
จุดเด่นของเรือนนี้ คือ ขนาดที่ใหญ่ และงานเนื้อ เสตนเลส และกระจก ที่ดูเรียบร้อยสวยงามเหมือนนาฬิกาชั้นดี แต่ด้วยราคาที่ถูกกว่า PAM 10 เท่า ทำให้มันน่าสนใจทีเดียว
ฟังชั่น Dual Time หรือ บอกเวลาที่สอง ของเรือนนี้ คิดว่า ใช้คำว่า dual Time หรือเวลาที่สองดีกว่า Dual Time Zone หรือ เวลาประเทศที่สอง เนื่องจาก ตัวหน้าปัดย่อยของเรือนนี้ ใช้กลไกควอทซ์ ของ Miyota แยกการทำงานจากตัวเรือนหลักสามารถตั้งแยกเวลา ของเข็มนาที ของตัวเอง อิสระ ออกจากเรือนหลัก ได้เลย ซึ่งต่างกับพวก GMT หรือ Dual Time Zone อื่นๆที่มักแยกกันเฉพาะเข็ม ชม.เท่านั้น(เพราะว่าเวลาแต่ละประเทศ ต่างกันเต็มชม.นั่นเอง)
ส่วนหน้าปัดหลักเป็นเครื่อง Automatic ของ Miyota เหมือนกัน
แม้นาฬิกาจะเรือนใหญ่มาก แต่เสียดายที่ หน้าปัดย่อย ที่บอกเวลาที่สอง และ หน้าต่างบอกวันที่ ที่ 6 น.นั้นเล็กไปหน่อยทำให้ดูเวลาได้ไม่ชัดนัก
แต่หน้าปัดของเรือนหลักไม่มีปัญหาดูได้ชัดเจน แม้แต่ในเวลากลางคืนพรายน้ำก็สว่างสะใจ
การตั้งเวลา ของ ทั้งสองหน้าปัดแยกกันอิสระ แต่การตั้งวันที่แบบ Quick Set ของเรือนนี้จะแปลกหน่อย ตรงที่ตั้งโดยการดึงเม็ดมะยม ออกมาให้สุดๆ แต่ละครั้งวันที่จะเลื่อนไปทีละหนึ่งวัน แปลกดี :P

ด้านหลังแกะลายสวยดูเผินๆ นึกว่า เป็น Breitling ซะแล้ว :P กระจกหลังเปลืองเห็นเครือ่ง Automatic ขนาดเล็ก ซึ่ง Finished ได้ ไม่สวยเท่ากับนาฬิกาสวิสต์ชั้นดี แต่ก็ไม่ถึงขั้นขี้เหร่ มีเม็ดมะยมรองรับแกนหมุนภายใน 21 เม็ด แต่ไม่ได้โชว์มาให้เห็นสีสรรแฮะ ส่วนฝาหลังเป็นแบบ สกรูขันอัดแน่น แจ้งสเป็คว่ากันน้ำได้ 100 เมตร ก็คงพอเพียง สำหรับการลงดำน้ำ ระดับผิว ถ้าไม่กลัวสายหนัง สวยหรูที่ให้มาจะเปื่อยยุ่ยซะก่อน :P

ด้านข้างของตัวเรือน หนาพอใช้ ขัดมันสวยงาม ตัดกับ ด้าน Bazel ที่ ขัดด้านทำให้นาฬิกา ออกมาดูสวยดีทีเดียว สังเกตุเม็ดมะยมอันเล็ก ด้านตรงข้ามกับเม็ดมะยมหลัก อันนี้คือ เม็ดมะยมสำหรับ ตั้งนาฬิกา หน้าปัดเล็ก ที่ใช้บอกเวลาที่สอง
สลักสายใช้เป็นสกรูไขเปลี่ยนด้านข้างเหมือนกับ Officine Panerai

จุดเด่นของนาฬิกาเรือนนี้ เลยที่โดนใจมากที่สุด ก็คือ Deployant Buckle ที่ทำได้สวยมากๆ สวยเหมือนนาฬิกาชั้นดี หลายๆยี่ห้อ ตลอดจนสายหนังวัวสีน้ำตาลเดินด้านข้าวเส้นใหญ่ดู แนว Sport ดี ก็เข้ากันได้ดี ใส่ง่ายและดูหรู ถ้า buckle อย่างนี้ไปอยู่กับนาฬิกา อย่าง Pam หรือ แบรนด์ดังอื่นๆ เฉพาะสายกับ buckle ก็น่าจะซื้อ นาฬิกาเรือนนี้ได้ ซัก 3 เรือน :P

ขนาดตัวเรือน 45-46 มม. แม้ว่าจะดุใหญ่ แต่ด้วยแบบของมันที่ไม่ดูเทอะทะมาก ทำให้เมื่อมองเทียบกับนาฬิกาสปอร์ตขนาดกลางๆ อย่าง Seiko Jungkle Master เจ้าป่าตัวนี้แล้ว ไม่หนีกันเท่าไรเลย

ย้ายมาไว้บนข้อมือขนาดเล็กจิ๋ว อย่างข้อมือผม ที่รอบข้อมือแค่ 6 นิ้วๆ พอๆกับข้อมือผู้หญิง ก็ยังพอไหว ดังนั้นคนข้อมือเล็ก ถ้าใจถึง ไม่ต้องกลัวว่านาฬิกา จะใหญ่เกินไป อิๆ :)

สรุปสำหรับเรือนนี้ ถ้าถามเรื่อง Brand ก็คงบอกว่า มันไม่ใช่แบรนด์ดัง แต่ถ้าพูดถึง ดีไซน์ ราคา และคุณภาพเท่าที่ดู ต้องบอกว่าเรือนนี้ดูเหมือนเป็นนาฬิกาที่คุ้มราคามากๆ (ถูกเกินตัวด้วยมั้งสำหรับนาฬิกาเรือนนี้ ) อ้อ เรือนนี้ไม่ทราบเหมือนกันว่า Price List เท่าไร แต่เพื่อนที่หิ้วมา และยังไม่ได้แกะ Sticker ออกเลย ปล่อยมาให้เลี้ยง ต่อด้วย ราคาแค่ 12.5 K พอๆ กับราคา Buckle อันเดียว อย่างที่ว่าแหละ

Back to Jfk watch Collection

www.2jfk.com

มีข้อแนะนำ หรือ ข้อมูลเพิ่มเติมแนะนำได้ครับ

jfk@2jfk.com