ผลงานชิ้นเอก
ของ Swatch ยักษ์ใหญ่
ที่มียอดจำหน่ายนาฬิกามากที่สุดในโลก
และ หลายคนมองว่า
ค่ายนี้ทำแต่นาฬิกา
ที่เหมือนของเด็กเล่น
หรือ นาฬิกา แฟชั่น
แต่สำหรับ Diaphae 1
เรือนนี้
น่าจะเป็นนาฬิกาพลาสติคที่แพงที่สุดในโลก
แต่ขณะเดียวกัน
ถ้านับว่าเป็น
นาฬิกา Tourbilllion Swatch
เรือนนี้ก็เป็น
Tourbillion
ที่อาจจะถูกที่สุดในโลก
เช่นกัน
เรือนนี้บรรจุมาในกล่องหนังสีน้ำตาลขนาดใหญ่
เจาะช่องกระจกตรงกลางให้เห็นนาฬิกา
พร้อมกับใบรับประกัน
นาฬิกาและใบรับประกันคุณภาพเพชรที่ใช้ประดับ
นาฬิกาด้วย
ภายในกล่องบุกำมะหยี่สีน้ำเงิน
พร้อมแผ่นโลหะ
สลักหมายเลขประจำเรือน
แบบ Limited
สำหรับเรือนนี้
ที่ได้มา หมายเลขสวย
181/2222
Diaphane 1
เรือนนี้ตัวเรือนเป็น
Aluminium ผสมกับพลาสติค
ซึ่งเสมือนเป็นการผสมผสานกัน
ระหว่าง รุ่น Irony
หรือตัวเรือนSwatch
ตัวเรือนโลหะ และ
Original swatch Plastic
การออกแบบ Diaphane 1
ทางสวอทย์ บอกว่า
ออกมาเพื่อสร้างความประหลาดใจให้กับคนที่พบเห็น
ทั้งในด้านเทคนิค
และความสวยงาม
โดยที่เรือนนี้
ทำมาในแบบ Skeleton
เปลือยให้เห็นเครื่องทั้งจากด้านหน้าและหลัง
ได้อย่างชัดเจน
กลไกการทำงานของมันจะคล้ายกับ
Tourbillion
แต่ทางสวอทย์บอกว่า
มันไม่ใช่ ทั้ง Tourbillion
และ Karussel กลไก ที่เคลื่อนไหว
ทั้ง Balance wheel และ Escapement
ของมัน
จะยึดอยู่บนแท่นเดียวกัน
และหมุนเคลื่อนที่ไปรอบๆ
หน้าปัดของนาฬิกา
เพื่อช่วยชดเชยผลจากแรงโน้มถ่วง
โดยมีอัตราการเคลื่อนที่
รอบละ 30 นาที หรือ ชม.ละสองรอบ
โดยผู้ออกแบบบอกว่าการออกแบบให้กลไกหมุนเคลื่อนที่วนไปเรื่อย
แบบนี้
ก็เหมือนดาวหาง
ที่โคจรไปในอวกาศ
และกาลเวลา
อย่างไม่มีสิ้นสุด(แต่เค้าคงลืมไปว่าดาวหางมันโคจรเป็นวงรี
ไม่ใช่วงกลมแบบนี้ :P
)
การทำงานของ Diaphane 1
ทำงานโดยการไขลานด้วยมือ
มีตลับลานเป็นแหล่งพลังงาน
รวมทั้งหมด 3 ชุด
ให้พลังงานสำรองรวม
50ชม.
โดยการไขลานประมาณ
50 รอบ
และเดินด้วยความถี่
21600 bph
ขนาดตัวเรือนค่อนข้างใหญ่
แต่ไม่หนักมากนักเนื่องจากความเบาของวัสดุที่ใช้
Diameter ตัวเรือน Diameter 42 mm
กระจกหน้าปัด 32 mm และ
หนา 13 mm.
ด้านหลัง
อัดแน่นด้วย สกรู
สลักหมายเลขประจำเรือน
ไว้ ด้านบน ฝังเพชร
คุณภาพดี
น้ำหนักเพชร 0.075 Karat
Diameter 2.7 mm. ไว้หนึ่งเม็ด
โดย Diaphane1 ผลิตออกมา
ในแบบ Limited รวม 2222
เรือน โดยที่ 1999
จะเหมือนกับเรือนนี้
คือ ฝัง เพชร
หนึ่งเม็ดที่ด้านหลัง
ส่วนอีก 223เรือนที่เหลือ
จะฝังอัญญมณีทั้งหมด
สามเม็ด คือ Sappihre
สีน้ำเงิน Diamond สีขาว
และ Ruby สีแดง รวมเป็นสัญญลักษณ์
สีธงชาติ
ของฝรั่งเศษ (ของไทยเราด้วยแหละ
แต่ถ้าทำของไทยสงสัยต้อง
ฝัง ทับทิม กับเพชร
เพิ่มอีกด้านละ
เม็ด ส่วนตรงกลาง
นี่ต้อง Sapphire
สองเม็ดคู่ :)
ฝาหลังของ
ตัวนี้เช่นเดียวกันกับด้านหน้าเปลือยให้เห็นกลไกผ่านกระจกใส
เครื่องจะมีการแกลายด้วยมือ
ที่ไม่ซ้ำลายกันในแต่ละเรือน
ฝังทับทิมสังเคราะห์รองรับแกนหมุนรวม
25 jewels
ด้านข้าง
เป็นพลาสติคสังเคราะห์สีใสขุ่นเล็กน้อยผิวส้มมองทะลุเห็นตัวเรือนอลูมิเนียมด้านใน
ดูแล้วน่าเสียวแตกหัก
โดยเฉพาะ
ตอนตอกเปลี่ยนสายนาฬิกา
:P
เรือนนี้มากับสายหนังสีน้ำตาลอ่อน
และ Buckle
โลหะอลูมิเนียม
ซึ่งขนาดสายใช้กันได้กับ
รุ่น Ironny แต่ต่างสี
กันเท่านั้น
แต่สำหรับใคร
ที่อยากได้สาย Original
ก็มีขายให้เหมือนกัน
ผมได้มาจากฮ่องกง
แค่ 100 HK$ เท่านั้นเอง
ถูกกว่าไปซื้อ Irony
ทั้งเรือนมาแกะเอาสายเยอะ
:P
สรุป
ถ้าเอาความคุ้มค่า
อย่ามามอง
นาฬิกาพลาสติคเรือนละแสนเลย
แต่ถ้าชอบนาฬิกา
ที่มีกลไกแปลก
มีเอกลักษณ์ และมีเรื่องราวให้คุยถึง
เยอะแยะ หรือ
เป็นแฟนสะสม Swatch
ตัวยง
ไม่น่าพลาดเรือนนี้
ว่าแต่ว่า
จะหาได้หรือป่าวแค่นั้นแหละเนอะ
:)