Broad Arrow
ตัวนี้เป็น Line
ล่าสุด ของ Speedmaster
ที่ออกมาสนอง
ความต้องการของแฟน
Speedmaster
ที่ไม่ชอบไขลาน
ด้วยตัวเอง และ
ชอบเข็มทรง Broad Arrow
ที่สวย และใช้มาใน
รุ่น Original Speedmaster (1957)
ซึ่งเป็นที่มาของชื่อรุ่น
Broad Arrow
ตัวนี้
มาพร้อมกับ
กล่องไม้เคลือบยูเรเธนพร้อมโลโก้
Omega สีทองสวยงาม
หรูหรา สมศักดิ์ศรี
นาฬิการะดับบนของโอเมก้าหน่อย
:)
ซองใส่ใบรับประกันเป็นซองหนังสีแดงตามสไตล์โอเมก้าเค้า
กล่องในบุผ้าสักกะหลาดสีครีมดูสวยเรียบ
พร้อมกับหมอสีเดียวกัน
สายหนังจรเข้ที่วางข้างๆเป็นสายคู่ตัวมากับ
BAหน้าปัดขาวเรือนนี้
ส่วนสาย
สีน้ำเงินที่ใส่อยู่เป็นสายลาย
Kevlar
ที่เปลี่ยนใหม่เอง
รุ่นนี้ตัวเรือนเป็น
Stainless Steel
ขัดมันทั้งเรือน
ขนาดเล็กกว่า Moon watch
เล็กน้อย
จนแทบสังเกตด้วยตาปล่าวไม่ออก
Diameter ของตัวเรือน 42 มม.
แต่ถ้าวัดเฉพาะขอบ
Bezel = 39 มม. และ Diameter
กระจกหน้าปัด = 34 .มม.
ความหนาหนา 14 มม
ความกว้างหูสาย 20 mm
หน้าปัดสีขาวครีมสวยเรียบ
ตัดกับ Marker
บอกเวลาและ เข็ม
ที่ใช้ Blue Steel
สีน้ำเงินสดใส ดูสวยแปลกตา
รุ่นนี้การจัดวาง
หน้าปัด และ
ถ้าดูเผินๆ
จะคล้ายกับ รุ่น Speed
Master Replica
ซึ่งเป็นเครื่อง manual
winding มาก แต่
วงบอกเวลาวินาที(Subdial
Second) ของ BA ที่ตำแหน่ง 9
น.นั้นจะไม่มีตัวเลขกำกับไว้
เหมือน กับรุ่น Replica
และรุ่นนี้มีช่องบอกวันที่
เป็นหน้าต่างสี่เหลี่ยมแทรกอยู่เหนือตำแหน่ง
6 น. ส่วนของขอบ Bezel มี Tachymetre ช่วยในการคำนวนความเร็วได้
เครื่องใน BA
ตัวนี้ใช้กลไก Autometic
caliber 3303 ที่Omega
พัฒนาร่วมกันกับFederique
piguet โดยใช้
กลไกจับเวลา แบบ Column
wheel
ที่คลาสสิคนุ่มมือเวลากดทำงาน
และใหพลังงานสำรองนานถึง
55 ชม.
พร้อมกับผ่านการรับรองทดสอบความเที่ยงตรงระดับ
Chronometer จาก COSC
ด้วย
กระจกหน้าปัดรุ่นนี้
ทิ้งConcept เดิม ของ Speedmaster
Professional หรือ Moon Watch ที่ใช้พลาสติค
Plexy Glass มาใช้ เป็นSapphire
Crystal กันรอยขีดข่วน
สำหรับคนชอบลุย
ฝาหลังเป็นแบบขันเกลียว
อัดแน่น
พร้อมลายม้าน้ำ
เหมือน Speedmaster
ตัวอื่นแต่สลักชื่อรุ่น
Broad Arrow ไว้ด้วย
รุ่นนี้ได้รับการปรับปรุงเรื่องการกันน้ำเพิ่มจาก
Speedmaster Pro
ขึ้นมาเป็นกันน้ำได้
100 เมตร
ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้ดำน้ำเบื้องต้นและว่ายน้ำได้
ถ้าใช้สายเหล็ก
แต่สำหรับคนใช้รุ่นสายหนัง
คงต้องเลี่ยงความชื้นไปก่อน
ด้านข้าง
ตัวเรือน ขอบ Bazel
และลักษณะของฝาหลัง
คล้ายกับ Speedmaster Pro
ดูคล้ายทรงลานบินมีส่วน
โค้งเว้าสวยงามจนทำให้ขนาด
ความหนา 14 มม.ดูไม่หนามากจนเทอะทะ
แต่ดูสวยงามลงตัวดี
สายหนังของรุ่นนี้
เป็น Crocodile skin
ที่ให้มาพร้อมกับ
Folding Clasp
เพื่อความสะดวกในการสวมไส่
แต่ว่าผมเองไม่ชอบสายสีน้ำตาลอ่อนที่ให้มาเลยเลือกเปลี่ยนเป็นสาย
ถัก Keflar
สีน้ำเงินเข้ม
เข้ากับสีเข็มหน้าปัด
ได้ดีกว่า แต่ยืม
Deployant Buckle ของสายเดิม
ออกมาใส่ต่อ
ก็ลงตัวดี
สรุปสำหรับคนชอบ
Speedmaster
แต่ไม่อยากไขลาน
บ่อยๆให้หงุดหงิด
ชอบเข็มทรง Broad Arrow
ที่สวยเป็นอำมะตะ
และรักความนุ่มนวล
ของกลไกจับเวลา แบบ
Column Wheel ของ Federique Piguet
ล่ะก้อตัวนี้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในราคาของหิ้วสายเหล็กแถวๆ
100K
ถ้าสายหนังก็ถูกกว่าอีก
4-5 K
แต่ถ้าชอบเครื่องและชอบหน้าตาแบบ
Seamaster ล่ะก้อ ลองไปดู " Seamaster Chrono AC " ซึ่งใช้เครื่องตัวเดียวกัน
ในราคาที่ต่ำกว่า
ตัวนี้ ถึง 20K