-=Jfk=- Car Experience

Mercedes Benz A Klass 170

A Klass หรือ Baby Benz จากค่ายดาว 3 แฉก ตัวนี้ เมื่อออกมาในตลาดโลก ครั้งแรกด้วยรูปโฉม ที่ฉีกความเป็น เบ็นซ์ออกไปจนหลายคนแปลกใจ รูปทรงน่ารัก แปลกตา แต่เมื่อออกมาในระยะแรก ผลการทดสอบเรื่องความปลอดภัย ของมันกลับพบว่ามีปัญหาเรื่องความปลอดภัยต่ำ จนกระทั่ง ต้องมีการพัฒนา แก้ไขเรื่องการทรงตัวและตำแหน่งการวางเครื่องยนต์ใหม่ เพื่อให้ได้ความปลอดภัยสูง ที่สุด
ตัว A170 ตัวนี้ เป็นโฉมสุดท้ายที่ ของ A Klass ในปัจจุบัน ก่อนที่ทางเดมเลอร์ไทย จะหยุดสายการผลิต และ นำเข้ามาทำตลาดในเมืองไทย ระยะแรก A Klass จะเป็นรถ CBU ที่นำเข้ามาทั้งคันจาก เยอรมัน ตั้งราคาขาย อยู่ที่ 1.99 ล้านบาท สำหรับ A170 นอกจากนี้ ยังมีรุ่น A180D (เครื่องดีเซล) ให้เลือกใช้ด้วย แต่ ช่วงปี 2007 ก่อนที่ จะหยุดทำตลาด A Klass ทางเดมเลอร์ไทยแลนด์ได้ระบายสต้อค รุ่นที่ผลิตในไทย CKD ออกมาหนึ่งล้อตด้วยราคาเร้าใจ แค่ 1.59 ล้าน และขายดีจนหมดสต้อคไปในเวลาอันสั้น (สร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดมือสองของ A Klass ตอนนั้น ที่ราคาขายสูงกว่า 1.5 ล้านไปพักนึง

สำหรับคันนี้ ออกมาเมื่อกลางปี 2007 เป็นตัว นำเข้าทั้งคัน CBU ล้อตสุดท้ายที่ค้างอยู่ ซึ่งพอถอยออกมาได้ แค่เดือนเดียว ก็มีล้อต รถประกอบในประเทศ เทกระจาดรุ่น ที่บอกข้างบนออกตามมาให้ช้ำใจ กับราคาเล่น อิๆ

รูปทรงหน้าตา ของ A Klass ตัวนี้หลายคนบอกว่า คล้ายกับ Jazz จนมีชื่อเรียกล้อกันเล่นๆว่า Jazz เยอรมัน แต่ว่าถ้ามองจริงๆแล้ว มีจุดต่างกันหลายจุด เช่นไฟหน้า และไฟท้าย ถ้ามองแบบเข้าข้างตัวเองนิดๆ ต้องบอกว่า ผมว่า ของ A Klass สวยกว่า Jazz นะ :P :P
รวมทั้ง A Klass จะมีขนาดใหญ่กว่าพอสมควรทีเดียว ห้องโดยสารภายใน แม้จะไม่ใหญ่มากนักแต่ก็ไม่ได้คับแคบ เรียกว่าเท่าๆกับรถญี่ปุ่น ขนาดกลางๆ ทั่วไปนั่นแหละ
ตำแหน่งของผู้โดยสารและคนขับ จะอยู่ค่อนข้างสูง มองทัศนวิสัยได้ดี การออกแบบที่นั่งสูงและเครื่องยนต์วางในตำแหน่งพิเศษ เนื่องจากหน้ารถสั้นเมื่อเกิดการชน กระแทกด้านหน้า เครื่องยนต์ได้ถูกออกแบบให้ Slide ตัวลงต่ำมุดลงใต้ห้องโดยสาร และยกคนนั่งด้านหน้าสูงขึ้นไป เพื่อเลี่ยงแรงประทะโดยตรง
ดูหน้าตาตัวเป็นของมันตอนออกจากโชว์รูม กันก่อน เพราะว่าหลังจากนี้มันจะแปลงร่างไปแล้ว อิๆ

ภายในห้องโดยสารออกแบบจากโรงงานด้วยโทนสีดำทั้งหมด เบาะหนังสีดำ ผ้าบุข้างประตู เป็นผ้าไนล่อนตาข่ายโปร่งสีดำ ซึ่งดูแล้ว น่าจะอมฝุ่นมาก ทำความสะอาดได้ยาก เลยจัดการ เปลี่ยนออกมาใช้เป็นหนังแทน แต่เปลี่ยนเป็นหนังแล้ว ถ้าใช้ดำก็ดูจะมืดไป อยากให้มันออกแนวสดใสน่ารัก ก็เลยจัดการใช้ ตัดสีแดงสด สลับ ให้ห้องโดยสารดูสดใสขึ้น ฝีมือของร้านทำเบาะชื่อดัง Kins คุณภาพงาน ที่ออกมาดี แต่ผมว่าราคาแพงไปนิดระยะหลังผมเลยเปลี่ยนไปใช้งานหุ้มเบาะและหนัง ของวิชัยการช่าง ที่แถว รร.จันทร์หุ่นบำเพ็ญ ที่ผลิตงานคุณภาพ ราคาสมเหตุผล กว่าแทน

คันนี้ เนื่องจากเป็นรถออกแนวน่ารักและแฟนผมเค้าเป็นคนใช้ประจำส่งลูกไปโรงเรียน เลยจัดการแต่งเป็นรถการ์ตูนไปเลย ตอนนี้ ที่บ้านเลยเรียกมันว่า "รถหนู" (Mickey & Minnie)

Specification
น้ำหนัก 1240 Kg มิติ รถ ยาว 3838 กว้าง 1764 สูง 1593
เครื่องเบนซินขนาด 1699 ซีซี สี่สูบ 8 วาล์ว115 แรงม้า ปรับตั้งไฟให้ใช้กับน้ำมัน Octane 95 เช่นเดียวกับรถเบนซินรุ่นอื่นๆ ของเบ็นซ์ ทั้ง หมด
เกียร์ออโต้ พร้อมทริปทรอนิคให้เลือกเปลี่ยนเกียร์เล่นได้ แบบ Manual
ล้อ ติดรถ เป็น Mag 5 ก้าน พร้อมยาง 195/55/16 ทั้ง 5 ล้อ สวยพอใช้เลยไมได้เปลี่ยนล้อ และยาง
ความเร็วปลายได้สูงสุดที่ 183 กม.ชั่วโมง
อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน เมื่อใช้บนทางไกล ความเร็วเฉลี่ย 120 กม.ชั่วโมง ประมาณ 12-14 กม./ลิตร
อัตราการสิ้นเปลืองใช้งานในเมืองเฉลี่ย 10 กม./ลิตร

อุปกรณ์อำนวยความสะดวก
เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า พร้อม Memory สองตำแหน่งสำหรับคนขับ
พวงมาลัย เพาเวอร์
เครื่องเล่น วิทยุ พร้อม CD 1 แผ่น (ไม่มี CD Changer)
ระบบความปลอดภัย มี ABS และ Air Bag พร้อมเข็มขัดนิรภัย ห้าที่นั่ง
กระจกไฟฟ้า พร้อม Center Lock และกันขโมยระบบ Immobilizer

ความรู้สึกในการขับขี่และใช้งาน
เป็นรถที่ ขับสบาย ในเมือง และเมื่อวิ่งทางไกล บนไฮเวย์ ก็ทรงตัวดี นิ่งที่ระดับความเร็ว 160 ไม่รู้สึกเครียดเหมือนกับรถญี่ปุ่นขนาดเล็ก เรียกว่าให้ความมั่นใจได้พอๆกับรถนั่งขนาดกลาง ญี่ปุ่น
อัตราเร่ง ต้องนับว่าอืดไปหน่อยแต่ไม่ได้ถึงขั้นอืดมากมาย ความรู้สึกใกล้เคียงกับอัตราเร่งของรถญี่ปุ่นระดับ 1600 ซีซี ถึง 1800 ซีซี นั่นแหละ
ข้อเสียใหญ่ของมันก็คงเป็นเรื่องราคา แต่ใครที่ซื้อตอนที่ เทกระจาดล้อตสุดท้ายก็ได้เปรียบเรื่องราคาไปพอสมควร
ที่เหลือก็วัดใจกันต่อว่า หลังจากเลิกทำตลาดแล้ว ทางเดมเลอร์ไทยจะยังสต้อคอะไหล่ ไว้ให้กับสมาชิก A Klass เพียงพอหรือไม่ ต้องรออะไหล่กันนานหรือไม่ แต่ดูจำนวน A Klass ในตลาดที่ออกมาระยะหลัง รวมๆกันแล้วก็มีไม่น้อยคิดว่า ทาง Daimler คงจะ Stock ไว้ให้พอสมควร และที่ผ่านมา ก็ไม่ได้จุกจิกอะไร ทั้งเรื่องอะไหล่และบริการ ส่วนอนาคต คงต้องดูกันต่อไป :P

Visit Jfk Car Gallery

www.2jfk.com

มีข้อแนะนำ หรือ ข้อมูลเพิ่มเติมแนะนำได้ครับ

jfk@2jfk.com